SET บ่ายแกว่งตัว รอตัวเลขศก.ศุกร์นี้โบรกฯ ชู 9 หุ้น เก็งงบ Q3/59 โตเด่น

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (3 พ.ย.) ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่จะติดลบ เหตุต้องการรอดูการเลือกตั้งของสหรัฐฯในวันที่ 8 พ.ย.นี้ก่อน หวั่น”ทรัมป์”จะมา-ส่งหุ้นร่วง นอกจากนี้รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯงวดต.ค.ในวันศุกร์นี้ด้วย หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนออกมาชะลอลง ส่วนผลประชุมเฟดออกมาตามคาด โดยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวต้าน 1,508 แนวรับ 1,500 จุด

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ เนื่องจากต้องการรอดูการเลือกตั้งของสหรัฐฯในวันที่ 8 พ.ย.นี้ก่อน โดยหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน มาก็อาจจะทำให้หุ้นปรับตัวลงได้

นอกจากนี้ ก็ยังต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯงวดเดือนต.ค.ในวันศุกร์นี้ด้วย ภายหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนออกมาชะลอลง สำหรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็เป็นไปตามคาด โดยเฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน แต่ก็มีบอกว่าจะต้องรอดูข้อมูลเศรษฐกิจในส่วนที่เหลือก่อน

สำหรับหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นได้น่าจะมาจากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศที่เข้ามาลงทุนในหุ้นรายตัว แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้แนวต้าน 1,508 จุด ส่วนแนวรับ 1,500 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (3 พ.ย.) ว่า SET ภาคเช้าเคลื่อนไหว Sideways ไม่เปลี่ยนแปลง รอความชัดเจนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 8 พ.ย.นี้ ล่าสุโพล์เลือกตั้งบางแห่งมองคะแนนทรัมป์ ขึ้นมา “สูสี” กับคลินตัน มากขึ้น กลยุทธ์หลักยังอยู่ที่การ “เลือกหุ้น” เหมือนเดิม ได้แก่ 1) กลุ่มโรงกลั่น IRPC ESSO 2) ผลดีลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน CK STEC (แนวต้าน 26.75/30 บาท) และ 3) กำไรไตรมาส 3/59 เด่น มีการปรับประมาณการกำไรขึ้น EA BJC CPALL BEAUTY THANI

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” EA ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 32 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59เติบโตเด่นจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 90MW 2) เริ่มรับรู้ผลของการ Refinance หนี้ 8 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.3% (เดิม 4.8%) ตั้งแต่ปลายปีนี้ 3) โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จะเริ่มผลิตไฟฟ้า 126MW ปลายปีนี้ จะหนุนกำไรปี 2560 เติบโตแกร่งต่อเนื่อง 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4) ทางเทคนิคทำรูปแบบ Cup with handle ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 30 บาท และระยะสัปดาห์ที่ 32.5/35.0 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

BPP  มูลค่าซื้อขาย  1,547.33 ล้านบาท ปิดที่  29.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท               

BANPU มูลค่าซื้อขาย  1,335.07 ล้านบาท ปิดที่  20.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง             

BCPG  มูลค่าซื้อขาย   1,135.04 ล้านบาท ปิดที่  15.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

ESSO  มูลค่าซื้อขาย    900.55  ล้านบาท ปิดที่  10.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

AOT   มูลค่าซื้อขาย    849.38  ล้านบาท ปิดที่ 375.00 บาท ลดลง  3.00 บาท