ได้เวลาสอย 3 ค่ายมือถือตัวท็อป!โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” หลังผ่านจุดต่ำสุด
ปรับกลยุทธ์เล่น 3 หุ้นสื่อสารตัวท็อป! หลังงบ Q3/59 อ่วมหนัก เหตุต้นทุนพุ่ง ฟากโบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" หลังผ่านจุดต่ำสุด
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยได้คัดเลือก 3 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ซึ่งได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3/59 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้พบว่าผลการดำเนินงานของ บจ.กลุ่มดังกล่าวปรับตัวลง และบางบริษัทมีผลขาดทุน
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากมองว่าผลประกอบการในไตรมาสดังกล่าวนั้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว นอกจากนี้ผลการดำเนินงานที่ลดลงนั้นมาจากการขยายโครงข่ายและการให้บริการ 4G รวมถึงการรับรู้ค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 900MHZ เต็มไตรมาส จึงคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสถัดไปจะสามารถฟื้นตัวได้ สำหรับบริษัทที่นักวิเคราะ์ยังแนะนำซื้อมีดังนี้ TRUE ,DTAC และ ADVANC
อันดับที่ 1 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) ขาดทุนสุทธิ 2.75 พันล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.08 บาทต่อหุ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.05 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.04 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวพลิกขาดทุนเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายโครงข่ายและการให้บริการให้ครอบคลุมประชากรทั่วประเทศ รวมถึงการรับรู้ค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 900MHZ เต็มไตรมาส
ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกขาดทุนสุทธิ 1.16 พันล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.01 พันล้านบาท หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น
โดยนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำ “ซื้อ” TRUE ราคาเป้าหมาย 10 บาท/หุ้น โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ขาดทุนมากขึ้น มาที่ขาดทุนสุทธิ 2.75 พันล้านบาท หากตัดรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนออก จะมีผลขาดทุนปกติ 2.47 ล้านบาท แย่ลงทั้งจากไตรมาสก่อน และจากปีก่อน เนื่องจากเริ่มรับรู้ต้นทุนใบอนุญาต 900 MHz เป็นไตรมาสแรก รวมถึงค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่าย
อย่างไรก็ตามรายได้จากการให้บริการไม่รวม IC ของ True Mobile ยังเติบโตอย่างโดดเด่น 4.1% จากไตรมาสก่อน และ 31.5% จากปีก่อน ซึ่งทำให้มี Market Share เพิ่มขึ้นอีก 0.5% จากไตรมาสที่ผ่านมาขึ้นมาอยู่ที่ 24.1% ในปัจจุบัน และห่างจาก DTAC เพียงแค่ 2.2% เท่านั้น
ทั้งนี้เชื่อว่าผลการดำเนินงานของ TRUE ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3/59 โดยคาดว่า TRUE จะยังคงมีโมเมนตัมการเติบโตของรายได้และการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งตลาดที่ดีต่อเนื่องและได้รับประโยชน์จากการ Leverage เนื่องจากต้นทุนโครงข่ายต่างๆบางส่วนเป็นต้นทุนคงที่ โดยเราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ TRUE จะแซงหน้า DTAC ขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาดได้ภายในปีหน้า เรายังคงประมาณการขาดทุนปกติปี 2016 และ 2017 ที่ 4,192 ลบ. และ 656 ล้านบาท ตามลำดับ และยังคาดว่าผลการดำเนินงานของ TRUE จะสามารถพลิกมามีกำไรได้ในปี 61
อันดับที่ 2 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 658.71 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.28 บาทต่อหุ้น ลดลง 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.23 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.52 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรลดลงเนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการให้บริการลดลง และมีต้นทุนในการดำเนินงานค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) เพิ่มขึ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 2.06 พันล้านบาท หรือ 0.87 บาทต่อหุ้น ลดลง 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.89 พันล้านบาท หรือ 2.07 บาทต่อหุ้น
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” DTAC ให้ราคาเป้าหมาย 52 บาท/หุ้น โดย DTAC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/59 ที่ 659 ล้านบาท ลดลง 46.3% จากปีก่อนแต่เพิ่มขึ้น 366.3% จากไตรมาสก่อนตามที่ตลาดคาด โดยมีประเด็นสำคัญเป็นค่าใช้จ่ายด้านการตลาดลดลง
ด้าน EBITDA คงที่จากปีก่อนจากเดิมที่คาดอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ 31-33% (ปัจจุบันคาด 33%) เนื่องจากไม่มีรายการพิเศษ ทำให้คาดว่าผลประกอบการจะคงที่ในไตรมาส 4/59
ทั้งนี้คาดผลประกอบการถึงจุดต่ำสุดแล้วแม้ว่าจำนวนผู้ใช้บริการจะลดลง 1.32 แสนราย แต่ผลประกอบการ และรายได้ของ DTAC ยังคงที่ และมีเงินอุดหนุนค่าเครื่องที่ลดลง ประกอบกับมองว่าในช่วงไว้อาลัยค่าใช้จ่ายด้านการตลาดจะต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม DTAC มีความจำเป็นต้องได้คลื่นเพิ่ม และคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในปีหน้า
อันดับที่ 3 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 6.53 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 2.20 บาทต่อหุ้น ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.62 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 2.90 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานดังกล่าวมีกำไรลดลง เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายซิมและโทรศัพท์ลดลง ขณะที่ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นตามการขยายโครงข่ายและต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 2.42 หมื่นล้านบาท หรือ 8.14 บาทต่อหุ้น ลดลง 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.84 หมื่นล้านบาท หรือ 9.54 บาทต่อหุ้น
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำ “ซื้อ” ADVANC โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 183 บาท หลังมองว่ากำไรสุทธิของ ADVANC ในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 14% และต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด 9% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่สูงเกินคาด
อย่างไรก็ตามมองว่าแนวโน้มในไตรมาส 4/59 จะยังไม่สดใส โดยปัจจัยหลักที่คาดว่าจะกดดันผลประกอบการ ไตรมาส 4/59 คือ ต้องเริ่มจ่ายเงินให้ TOT อีก 975 ล้านบาท/ไตรมาส สำหรับค่าใช้คลื่น 2100 MHz และคาดค่าเสื่อมราคายังเพิ่มขึ้นตามการขยายโครงข่าย 4G
*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน