SET บ่ายยืนลบ โบรกฯ ชู 5 หุ้นเด่นฟื้นตัวแกร่งกว่าตลาด
SET บ่ายยืนลบ แนะเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก พร้อมให้แนวรับ 1,470 แนวต้าน 1,490 จุด โบรกฯ ชู 5 หุ้นเด่นฟื้นตัวแกร่งกว่าตลาด นำโดย CPALL, BEAUTY, BJC, CK และ STEC
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (14พ.ย.) ปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ ความกังวลนโยบายของ”ทรัมป์”ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐส่งผลดึงเงินกลับสหรัฐ และกังวลการค้าระหว่างประเทศกระทบประเทศเกิดใหม่ เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น-บาทอ่อนค่าต่อเนื่อง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงราคาน้ำมันย่อตัวลงด้วย ช่วงที่เหลือปีนี้มองกรอบแนวรับที่ 1,430-1,450 จุด แนะเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็กไปก่อน บ่ายนี้คาดตลาดฯยังติดลบ ให้แนวรับ 1,470 แนวต้าน 1,490 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันเป็นส่วนใหญ่ รับผลจากความกังวลนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ทำให้มีการดึงเงินกลับเข้าสหรัฐฯ จากการปรับลดภาษี รวมทั้ง นโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศอาจกระทบประเทศเกิดใหม่
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) รวมถึงราคาน้ำมันก็ย่อตัวลงตามFund Flow ที่ไหลออก โดยเฉพาะตลาดในกลุ่ม TIP จะเห็นได้ว่า Underperform มาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้มองกรอบแนวรับไว้ที่ 1,430-1,450 จุด อย่างไรก็ดี แนะนำให้เล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็กไปก่อน เพราะหุ้นขนาดใหญ่ยัง Underperform อยู่ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะยังติดลบต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1,490 จุด
บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (14พ.ย.) ว่า SET ภาคเช้า ปรับลดลงเป็นผลจากการ “ปรับพอร์ต” ของนักลงทุนหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ มากกว่าปัจจัยด้าน “พื้นฐาน” ที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ดีถ้าพิจารณาทางเทคนิค ถือว่า SET มี Downside Risk เพิ่มขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถยืนได้เหนือ 1,480 จุด วันนี้ (ดูราคาปิดวันนี้) จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,455 จุด (อิงเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน) หรือลงไปปิด Gap ที่ 1,412 จุด
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะดีดตัวได้ดีกว่าตลาด มองการปรับลดลงของ SET เป็นผลจากการ “ปรับพอร์ต” มากกว่าพื้นฐานที่เปลี่ยนไป ทำให้กลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ออกมาดี, กำไร 2559-2560 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง, ผลการดำเนินงานอิงกับการบริโภค และการลงทุนภาคในประเทศ มี Downside Risk จำกัด และคาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีกว่าตลาด ได้แก่ CPALL BEAUTY BJC CK STEC
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 2,059.60 ล้านบาท ปิดที่ 38.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,537.59 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
FN มูลค่าการซื้อขาย 1,457.43 ล้านบาท ปิดที่ 5.55 บาท เพิ่มขึ้น 1.67 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,178.53 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 979.50 ล้านบาท ปิดที่ 7.10 บาท ลดลง 0.15 บาท