SET เสี่ยงปรับตัวลง รอเก็บของที่แนวรับสอย 10 หุ้นเด่น จับตากลุ่มเข้าคำนวณ MSCI
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวน และมีโอกาสอ่อนตัวลงสู่แนวรับที่ 1,450 - 1,460 จุด แนะนำให้รอซื้อกลับบริเวณแนวรับดังกล่าว เน้นการลงทุนในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังดี และจับตาหุ้นที่มีโอกาสได้รับเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Thailand รอบใหม่
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.38 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน โดยตลาดบางแห่งได้รับแรงหนุนจากการปิดบวกของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นบางแห่งอ่อนแรงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเมื่อคืนนี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวน และมีโอกาสอ่อนตัวลงสู่แนวรับที่ 1,450 – 1,460 จุด แนะนำให้รอซื้อกลับบริเวณแนวรับดังกล่าว เน้นการลงทุนเน้นหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังดี และจับตาหุ้นที่มีโอกาสได้รับเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Thailand รอบใหม่
หุ้นเด่นเลือก BJC-KCE-COM7-MALEE-TKN-TFG-CPALL-BEAUTY-CK และ STEC
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 พ.ย.) ว่า SET ปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับ 1,480 จุด ถือว่าเป็นสัญญาณ “ลบ” ทางเทคนิค โดยมีแนวรับถัดไปที่ MAV200 วัน หรือประมาณ 1,455 จุด แต่คาดหวัง Technical Rebound ด้วยแนวต้าน 1,480 จุด จาก 1) ค่าเงินบาท เริ่มยืนได้ที่ 35.4-35.5 บาท/ดอลลาร์ฯ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ฯ (Dollar Index) ยังไม่ทะลุแนวต้านที่ 100 2) Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ มีเสถียรภาพมากขึ้น ล่าสุดที่ 2.2% ลดลงจาก 2.3% เมื่อวานนี้ และ 3) MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นใหญ่ อย่าง BJC หนุน Sentiment
แนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 แข็งแกร่ง, ถูกเพิ่มในดัชนี MSCI และผลดีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก
1) Earning Plays: “ซื้อ” BJC (กำไรไตรมาส 4/59 จะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/59 ล่าสุดถูกเพี่มในดัชนี MSCI เป้าหมายทางเทคนิคที่ 54.5/57.0 บาท CPALL BEAUTY (กำไรไตรมาส 3/59 +106% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน) และ “เก็งกำไร” MALEE (ถูกเพิ่มใน MSCI Global Small และรายงาน The Revision แนะนำ “เพิ่ม” เข้าพอร์ตในสัปดาห์ก่อน แนวต้าน 105/112) 2) Infrastructure Plays: CK (กำไรไตรมาส 3/59 ดีกว่าคาด +34% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน) STEC
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (14 พ.ย.) คาด SET ยังเคลื่อนไหวผันผวนแต่มีโอกาสฟื้นตัวจากที่ลดลงแรงในช่วง 2 วันที่ผ่าน ประกอบกับวันนี้ได้ Sentiment เชิงบวกจากการที่ MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตามคาดการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากหุ้นในกลุ่ม Big Cap ( พลังงาน ธนาคาร และสื่อสาร) ยังถูกกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออก
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนระยะนี้จึงเน้นการลงทุนในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก คือ 1)หุ้นที่ได้รับเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Thailand รอบใหม่ คือ KCE, BJC และ MSCI Global Small Cap คือ COM7 MALEE TKN TFG 2) หุ้นที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 ออกมาดีเกินคาด อาทิ BCH SYNTEC 3) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK STEC BEM SEAFCO) รับอานิสงส์กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอ Action plan ปี 60 มูลค่ากว่า 200,00 ล้านบาทเข้าครม.ในวันนี้ 4) กลุ่มเดินเรือ (TTA, PSL, RCL) ดัชนีค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ของปีและยืนเหนือระดับ 1,000 จุดซึ่งใกล้เคียงกับระดับ Breakeven ของกลุ่มเดินเรือ และ 5)กลุ่มยางพารา (STA) ราคายางกลับสู่เทรนด์ขาขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : TKN (เป้าใหม่ 31 บาทเดิม 24.00) ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้และปีหน้าขึ้น 6% และ 20% สะท้อนแนวโน้มธุรกิจที่สดใส
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (14 พ.ย.) ตลาดหุ้นวานนี้ ถูกแรงขายหลังจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากนโยบายของทรัมป์ที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐเป็นหลัก ส่งผลให้กองทุนต่างประเทศปรับพอร์ตในช่วงท้ายปีนี้ สำหรับเช้านี้ Dollar Index เริ่มทรงตัวคาดแรงขายในวันนี้น่าจะลดลง
กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET ยังมีโอกาสอ่อนตัวลงสู่แนวรับที่ 1,450 – 1,460 จุด แนะนำให้รอซื้อกลับบริเวณแนวรับดังกล่าว สำหรับหุ้นไทยถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Global Standard Index รอบนี้คือ BJC , KCE ส่วนใน MSCI Global Small Index คือ COM7 ,MALEE, TKN, TFG