SET ทรงตัว นักลงทุนจับตาถ้อยแถลง “เยลเลน”หุ้น MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุน Outperform ตลาด
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย เคลื่อนไหวผันผวนในรูปแบบของการซึมตัว เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูถ้อยแถลงของนาง เจเน็ต เยลเลน ต่อสภาคลองเกรสคืนวันนี้ ว่าจะมีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอย่างไรหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี กลยุทธ์การลงทุนระยะนี้เน้นการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก รวมถึงหุ้นพื้นฐานดี ที่ได้แรงหนุนจาก MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุนปลายเดือนนี้ จะมีแนวโน้ม Outperform ตลาดในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.28 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.38 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนในรูปแบบของการซึมตัว เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูถ้อยแถลงของนาง เจเน็ต เยลเลน ต่อสภาคลองเกรสคืนวันนี้ว่าจะมีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอย่างไร หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี กลยุทธ์การลงทุนระยะนี้เน้นการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก รวมถึงหุ้นพื้นฐานดี ที่ได้แรงหนุนจาก MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุนปลายเดือนนี้ จะมีแนวโน้ม Outperform ตลาดในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
หุ้นเด่นเลือก KCE-COM7-MALEE-TKN-TFG-BJC-CK-STEC และ STA
บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ย.) ว่า ค่าเงินบาท, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น จะทำให้ SET เริ่มลดความผันผวนระยะสั้นลง ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,455-1,480 จุด โดยมองกลุ่มหุ้นที่ถูก MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุนปลายเดือนนี้ จะมีแนวโน้ม Outperform ตลาดในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
แนะนำ “ซื้อ” หุ้นพื้นฐานดี ที่ได้แรงหนุนจาก MSCI อย่าง KCE BJC รวมไปถึงกลุ่มรับเหมาฯ ที่มีประเด็นบวกระยะยาวจาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 6 แสนล้านบาทในปี 2017 อย่าง
CK : เป้าหมายพื้นฐาน 38.00 บาท… มูลค่า NAV ของบริษัทลูกอย่าง BEM, CKP และ TTW ที่ 29.50 บาท/หุ้น เทียบกับราคาหุ้น CK ที่ 30.50 บาท/หุ้น มองราคาหุ้นมี Downside Risk จำกัด
STEC : เป้าหมายพื้นฐาน 26.50 บาท… นอกจากได้ผลดีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะยาวของรัฐบาล การเข้าลงทุนใน TSE เพิ่มสัดส่วน Recurring Income ขณะที่ทางเทคนิคลุ้นทำ New High ทดสอบ 27.75/29.75 บาท
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ย.) คาด SET จะเคลื่อนไหวผันผวนในรูปแบบของการซึมตัวลง เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น ประกอบกับนักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูถ้อยแถลงของนาง เจเน็ต เยลเลน ต่อสภาคลองเกรสในคืนวันนี้ ว่าจะมีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอย่างไรหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี และจะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังไงในปีหน้า ขณะเดียวกัน Fund Flow ต่างชาติที่ยังไหลออกจะยังเป็นปัจจัยลบหลักคอยกดดันตลาด เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่ม Big Cap ธนาคาร และสื่อสาร ยังไม่มีปัจจัยกระตุ้น ยกเว้นกลุ่มพลังงานซึ่งในระหว่างวันอาจจะได้แรงส่งหากราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้ากลับมาฟื้นตัว
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะนี้จึงเน้นการลงทุนและเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก คือ 1) กลุ่มหุ้นที่ถูกปรับเข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่ KCE, COM7, MALEE, TKN, TFG กลุ่มเดินเรือ TTA, PSL, RCL ดัชนีค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ของปีและยืนเหนือระดับ 1,000 จุดซึ่งใกล้เคียงกับระดับ Breakeven ของกลุ่มเดินเรือ และกลุ่มยางพารา (STA) ราคายางยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : STA (ซื้อ/เป้า 17.00 บาท) ราคายางพารายังเป็นเทรนด์ขาขึ้น และตลาดกังวลคดีฟ้องร้องที่ออสเตรเลียมากเกินไป
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ย.) ว่า ทิศทาง Dollar Index เช้านี้ยังทรงตัวและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเริ่มปรับตัวลดลง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่เริ่มฟื้นตัว ประเด็นที่ยังต้องติดตามคือการประชุมนอกรอบโอเปกที่กรุงโดฮาในวันศุกร์นี้ว่าจะสามารถหาข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตได้หรือไม่ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นยังเป็นปัจจัยลบกดดันตลาด
กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนีน่าจะยังแกว่งตัวในกรอบ 1,460 -1,490 จุด เพื่อรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น วันนี้ติดตามการเปิดซองคุณสมบัติประมูลรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู ซึ่งส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มรับเหมา