เก็ง 16 บจ.ร้อนปลายปี หุ้นค้าปลีกนำขบวนSET ขึ้นตามตปท.แรงขายต่างชาติชะลอตัว
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศทดสอบ 1,510 จุด ขณะที่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัว การลงทุนแนะนำกลุ่มที่กำไรเติบโตดี, ได้รับปัจจัยบวกการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และกลุ่มที่ถูกเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI เป็นหลัก
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงานเช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.52 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นหลัง 3 ดัชนีในตลาดหุ้นนิวยอร์กต่างทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.) โดยได้รับอานิสงส์จากยอดขายที่พุ่งขึ้นในวันแบล็กฟรายเดย์ ซึ่งเป็นวันหนึ่งที่ลูกค้าจะเข้าซื้อสินค้าอย่างคึกคักที่สุดในรอบปี
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศทดสอบ 1,510 จุด ขณะที่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัว การลงทุนแนะนำกลุ่มที่กำไรเติบโตดี, ได้รับปัจจัยบวกการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และกลุ่มที่ถูกเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI เป็นหลัก
A) MTLS (ขยายตลาดไปยังสินเชื่อรถยนต์ ปรับกำไรขึ้น 15-16%) RJH
หุ้นเด่นเลือก MTLS-RJH-BEAUTY-GLOBAL-HMPRO-M-MC-MINT-ERW-CENTEL-BJC-KCE-COM7-TKN-ROBINS และ HMPRO
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (28 พ.ย.) ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้กลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อย ขณะที่ยังมีปัจจัยบวกจากภายในประเทศที่คาดว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคาร์นี้ อาจจะมีการพิจารณามาตรการช้อปช่วยชาติ ซึ่งจะออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นติดลบ เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าและการส่งออกปรับตัตวลง แต่ก็มีบางตลาดฯที่ฟื้นตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ถ้าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯออกมาดี และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯออกมาดี ก็อาจจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาแข็งค่าได้ ซึ่งอาจทำให้ตลาดฯปรับตัวลงได้ พร้อมให้แนวรับ 1,488-1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,520 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (28 พ.ย.) ว่า SET มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นทดสอบ 1,510 +/- จุด สัปดาห์นี้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) แรงซื้อกองทุนประหยัดภาษี LTF ปลายปี ซึ่งปกติจะกระจุกตัวในเดือน ธ.ค. 70-80% 2) คาดมาตรการกระตุ้นการบริโภคและท่องเที่ยวเพิ่มสัปดาห์นี้ หนุนกลุ่มหุ้น Domestic และ Tourism plays และ 3) MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นขนาดใหญ่อย่าง BJC KCE (เข้า MSCI Thailand) และ MALEE TKN TFG COM7 (เข้า MSCI Global Small) วันที่ 30 พ.ย.นี้ หนุน Sentiment ตลาดโดยรวม
แนะนำ “ซื้อ” A) กลุ่มหุ้นกำไรเติบโตดี และถูก Upgrade กำไรขึ้น B) กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นบริโภค-ท่องเที่ยว เพิ่มเติมสัปดาห์นี้ และ C) หุ้นพื้นฐานดีที่ถูกเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI
A) MTLS (ขยายตลาดไปยังสินเชื่อรถยนต์ ปรับกำไรขึ้น 15-16%) RJH
B) BEAUTY GLOBAL HMPRO M MC MINT ERW CENTEL
C) BJC KCE COM7 (BJC และ COM7 ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นบริโภคด้วยเหมือนกัน)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (28 พ.ย.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนและมีโอกาสลดลง จากแรงขายในกลุ่มพลังงานซึ่งถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงกว่า 3.9% อย่างไรก็ตาม ประเมินการไหลออกของ Fund Flow ต่างชาติน่าจะชะลอตัวหลังจากที่ Bond yield 10 ปีของสหรัฐไม่ได้เพิ่มขึ้นต่อ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มกลับมาอ่อนค่าน่าจะช่วยพยุงไม่ให้ดัชนีลดลงแรง
นอกจากนี้แรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะเป็นอีกแรงที่ช่วยหนุนตลาด โดยมีกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ อาทิ 1) กลุ่มค้าปลีก (ROBINS BIG MC JMART COM7) ได้ผลบวกจากมาตรการช็อปปิ้งช่วยชาติซึ่งภาครัฐจะเพิ่มวงเงินจาก 15,000 บาทเป็น 30,000 บาทและขยายเวลาจาก 7 วันเป็น 30 วัน 2) กลุ่มหุ้นที่เข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่ มีผล 1 ธ.ค.16 (KCE TKN MALEE) และกลุ่มรับเหมา (CK STEC BEM BTS) ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะมีความคืบหน้ามากขึ้น
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในวันนี้คือ การประกาศตัวเลขส่งออกของไทยเดือน ต.ค.หากเป็นบวกต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อ Sentitment การลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเรา ขณะที่วันที่ 30 พ.ย. ติดตามการประชุมของกลุ่ม OPEC ว่าจะสามารถลดกำลังการผลิตได้หรือไม่ซึ่งจะส่งผลบวก/ลบโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานของบ้านเรา
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : TKN (ซื้อ เป้า 31.00 บาท) รับผลบวกเข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่ ด้านผลประกอบการโตต่อเนื่อง โดยไตรมาส 4/16 เป็น High Season และไตรมาส 1/16 โรงงานใหม่เริ่มการผลิตเพิ่ม Capacity อีก 30%
บล.แอพเพิลเวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (28 พ.ย.) ว่า แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติน่าจะเริ่มชะลอตัว สอดคล้องกับแรงขายหุ้นในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ลดลง 183 M.USD. เช้านี้ประเด็นข่าวซาอุ ฯ ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้ราคา Crude Futures เข้านี้ลดลงราว 1 % กว่า
ขณะที่ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานส่งออกไทย ต.ค. Consensus คาด 1.40 % (เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน) และพรุ่งนี้ติดตาม ครม. ออกมาตรกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงท้ายปี กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET น่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,485 – 1,510 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบ ระหว่างรอผลการประชุม OPEC ในวันพุธนี้ ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น ROBINS, BJC, HMPRO