SET บ่ายแกว่งตัว ติดตามประชุมโอเปก 30 พ.ย.นี้โบรกฯ ชู 8 หุ้น กลุ่มโรงกลั่น-รับเหมา มีปัจจัยหนุน

SET บ่ายแกว่งตัว ติดตามประชุมโอเปก 30 พ.ย.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,510 จุด ให้แนวรับ 1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,510 จุด นำโดย IRPC, ESSO, CK, BEM, TTW, CKP, SEAFCO และ STEC


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (28 พ.ย.) แกว่งแคบ รับแรงกดดันจากหุ้นบิ๊กแคปที่ปรับตัวลง อันเป็นผลจากความไม่แน่นอนในการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้มองกันว่าอาจจะตกลงกันไม่ได้ในเรื่องการลดกำลังการผลิต ทำให้ไปกดดันกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี ยังได้แรงหนุนจากลุ้นช้อปช่วยชาติ และหุ้น AOT ช่วยประคองตลาดฯได้ ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ บ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด โดยให้แนวรับ  1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,510 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ส่วนใหญ่จะปรับตัวลง อันเป็นผลจากเกิดความไม่แน่นอนในการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้แล้ว ซึ่งขณะนี้มองกันว่าอาจจะตกลงกันไม่ได้ในเรื่องการลดกำลังการผลิต จึงทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมไปถึงนักลงทุนต่างชาติก็ยังคงขายอย่างต่อเนื่องด้วย

อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังได้แรงหนุนจากมาตรการช้อปช่วยชาติ และได้แรงหนุนจากหุ้น AOT ที่เช้านี้ช่วยประคองตลาดฯไว้ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มากนัก แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งในกรอบจำกัด พร้อมให้แนวรับ 1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,510 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (28 พ.ย.) ว่า SET ภาคเช้า เคลื่อนไหวแคบเช้านี้ ขณะที่ถ้าพิจารณาเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรมจะเห็นว่าหุ้นกลุ่มค้าปลก ที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นบริโภค เพิ่มเติมปลายปีนี้อย่าง BJC COM7 GLOBAL ROBINS KTC M BEAUTY แข็งแกร่งกว่าตลาด และคาดว่าจะยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง (Outperform) ตลาดต่อไป แนะนำ “ซื้อ” BJC (ถูกเพิ่มใน MSCI Thailand วันที่ 30 พ.ย.นี้ด้วย), ROBINS BEAUTY KTC (Breakout แนวต้านไปแล้ว เป้าหมายถัดไปที่ 154 / 167 บาท) และ GLOBAL

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” 1) กลุ่มโรงกลั่น อย่าง IRPC และ “เก็งกำไร” ESSO (ดูคำแนะนำทางเทคนิคด้านล่าง) มองราคาหุ้นจะ Outperform ตลาด จากค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับสูง US$7-8/bbl ในไตรมาส 4/59 และส่วนต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ปิโตรฯ กับวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้น และ 2) กลุ่มรับเหมาฯ อย่าง CK (ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 30.50 +/- บาท สะท้อนมูลค่าในธุรกิจลูก อย่าง BEM TTW CKP ที่ 30.20 บาท/หุ้น เท่านั้น) SEAFCO และ “เก็งกำไร” STEC คาดเปิดประมูลรถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู-ส้ม ภายในไตรมาส 1/60

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

BEM  มูลค่าการซื้อขาย 1,037.69 ล้านบาท ปิดที่   7.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท

BANPU  มูลค่าการซื้อขาย   765.02 ล้านบาท ปิดที่  19.00 บาท ลดลง  0.20 บาท

AOT  มูลค่าการซื้อขาย   717.30 ล้านบาท ปิดที่ 386.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

AMARIN มูลค่าการซื้อขาย   640.34 ล้านบาท ปิดที่   8.55 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท

THAI  มูลค่าการซื้อขาย   627.19 ล้านบาท ปิดที่  24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

Back to top button