เคาะ 14 หุ้นเด็ด รับเหมา-ท่องเที่ยวมาแรงSET ผันผวน ก่อนคำนวณ MSCI รอบใหม่
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง โดยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นหลังงาน ขณะที่การ Rebalance น้ำหนักลงทุนของ MSCI ช่วงก่อนปิดตลาดวันนี้ จะทำให้ SET มีความผันผวนเพิ่มขึ้น หุ้นขนาดกลางถึงเล็ก เช่น กลุ่มที่เข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่อาจจะมีแรงขายทำกำไรก่อนที่จะมีผลบังคับใช้จริงในวันพรุ่งนี้ ขณะที่กลุ่มค้าปลีกอาจปรับตัวลงเนื่องจากผิดหวังที่ ครม. ยังไม่พิจารณามาตรการช้อปปิ้งช่วยชาติ
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงานเช้านี้ ณ เวลา 9.26 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.57 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี และราคาบ้านที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง โดยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นหลังงาน ขณะที่การ Rebalance น้ำหนักลงทุนของ MSCI ช่วงก่อนปิดตลาดวันนี้ จะทำให้ SET มีความผันผวนเพิ่มขึ้น หุ้นขนาดกลางถึงเล็ก เช่น กลุ่มที่เข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่อาจจะมีแรงขายทำกำไรก่อนที่จะมีผลบังคับใช้จริงในวันพรุ่งนี้ ขณะที่กลุ่มค้าปลีกอาจปรับตัวลงเนื่องจากผิดหวังที่ ครม. ยังไม่พิจารณามาตรการช้อปปิ้งช่วยชาติ
หุ้นเด่นเลือก CK-STEC-SEAFCO-PYLON-BEM-BTS-THAI-AAV-BA-EPG-ERW-ROBINS-BJC และ HMPRO
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 พ.ย.) ว่า ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 3.9% เมื่อคืน นักลงทุนไม่มั่นใจ OPEC สามารถบรรลุแผนในการควบคุมการผลิตน้ำมันในการประชุมคืนนี้ เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่การ Rebalance น้ำหนักลงทุนของ MSCI ช่วงก่อนปิดตลาดวันนี้ จะทำให้ SET มีความ “ผันผวน” เพิ่มขึ้นในช่วง 30 นาทีก่อนปิดตลาดเย็นนี้ ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,486-1,510 จุด
แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ อย่าง CK (ราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อน NAV บริษัทลูกที่ 30 บาท/หุ้น เท่านั้น – ทะลุ 31.25 บาท จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 33-34 บาท) SEAFCO (กำไร 4Q16 จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง – แนวต้าน 11.3/11.5) PYLON (แนวต้าน 11.7/12.5) และ “เก็งกำไร” STEC คาดการณ์การเปิดขายซองรถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง มูลค่า 1 แสนล้านบาท และผลการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม-เหลือง-ชมพู มูลค่า 1.9 แสนล้าบาท ในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า จะเป็นปัจจัย “บวก” ต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (30 พ.ย.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนและมีโอกาสลดลง จากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงกว่า 1.85$/bbl (-3.9%) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจต่อผลการประชุมของกลุ่ม OPEC ในคืนวันนี้ ขณะเดียวกัน Fund Flow ต่างชาติที่กลับมาไหลออกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันดัชนี อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงขายต่างชาติน่าจะลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อวานที่ขายสุทธิสูงถึง 3,000 ล้านบาท เนื่องจาก Indicator ที่สำคัญยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางลบ อาทิ Bond yield 10 ปีของสหรัฐยังทรงตัวและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ทำให้หุ้น Big Cap อาทิ ธนาคารและสื่อสารน่าจะยังทรงตัวได้
ส่วนหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก อาทิกลุ่มที่เข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่อาจจะมีแรงขายทำกำไรก่อนที่จะมีผลบังคับใช้จริงในวันพรุ่งนี้ กลุ่มค้าปลีกอาจปรับตัวลงเนื่องจากผิดหวัง ครม.ยังไม่พิจารณามาตรการช้อปปิ้งช่วยชาติ อย่างไรก็ตามหุ้นที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นคือ กลุ่มรับเหมา (CK STEC BEM BTS) เนื่องจากจะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่มากขึ้น โดยวันนี้ (30 พ.ย. 16- 2 ธ.ค. 16) จะมีการประชุมหารือโครงการรถไฟไทย-จีน และวันที่ 13 ธ.ค. 16 รฟท.เปิดขายซองรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และ ช่วงกลางเดือน ธ.ค. เปิดผลประมูลรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู
ส่วนอีกหนึ่งกลุ่มคือ กลุ่มท่องเที่ยวได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐที่อนุญาติให้นำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก 15,000 บาทรวมทั้งปีเป็น 30,000 บาท และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบลดลง เช่น หุ้นสายการบิน (THAI AAV BA) รวมถึง EPG
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : ERW (ซื้อ/เป้า 5.50 บาท) รับผลบวกรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว
บล.แอพเพิลเวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (30 พ.ย.) คาดทิศทางแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติน่าจะเริ่มชะลอตัว สอดคล้องกับแรงขายหุ้นในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ลดลง 183 M.USD. เช้านี้ประเด็นข่าวซาอุ ฯ ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้ราคา Crude Futures เข้านี้ลดลงราว 1 % กว่า
ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานส่งออกไทย ต.ค. Consensus คาด 1.40 % (จากช่วงเดียวกันในปีก่อน) และพรุ่งนี้ติดตาม ครม. ออกมาตรกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงท้ายปี กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET น่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,485 – 1,510 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบ ระหว่างรอผลการประชุม OPEC ในวันพุธนี้ ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น ROBINS, BJC, HMPRO