โบรกฯฟัน 9 บจ.เด็ด SET ทรงตัวหุ้นพลังงาน Outperform ตลาดต่อ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าช่วงวันหยุดยาว ขณะที่ดัชนียังมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่มีแนวโน้ม Outperform ตลาดต่อเนื่อง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงานเช้านี้ ณ เวลา 9.19 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.63 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือน พ.ย. วันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เดือนนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าช่วงวันหยุดยาว ขณะที่ดัชนียังมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่มีแนวโน้ม Outperform ตลาดต่อเนื่อง หุ้นเด่นเลือก PTT-PTTEP-PTTGC-CK-BJC-CPALL-HMPRO-BEAUTY และ  JMART

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.) หุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT PTTEP และ PTTGC จะ Outperform ตลาดต่อเนื่องวันนี้ โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 6.9% เมื่อคืนนี้ หลัง OPEC บรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นปัจจัยสนับสนุน SET ปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,520 +/- จุด ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยกดดันต้นทุนดำเนินงานกลุ่มสายการบิน อย่าง AAV THAI BA และอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ล่าสุด Bond yield 10 ปีสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ มิ.ย.15 ที่ 2.45% และ Bond yield 10 ปีไทยที่ 2.7% กดดันหุ้นกลุ่ม rate sensitive อย่าง Asset funds, Leasing, และ Micro Finance

แนะนำ 1) กลุ่มพลังงาน  “ซื้อ” PTT (มีประเด็นนำ PTTOR เข้าตลาดในช่วง 12-15 เดือนข้างหน้า แนวต้าน 378.00 บาท) และ PTTGC (ได้รับผลดีจากน้ำมันขึ้น และกำลังการผลิต Aromatic กับ Phenol ที่เพิ่มขึ้น ต้าน 65.00/68.00 บาท) และ 2) กลุ่มค้าปลีก-รับเหมาฯ: “ซื้อ” CK BJC CPALL HMPRO BEAUTY

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว (5 ธันวาคม) และรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน พ.ย. ในคืนวันนี้ โดย Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.75 แสนตำแหน่ง จาก 1.61 แสนตำแหน่งในเดือน ต.ค. รวมถึงรอดูผลการลงประชามติเพื่อปฏิรูปรัฐธรรมนูญของอิตาลีในวันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค.16 ซึ่งประเด็นนี้อาจทำให้ตลาดการเงินโลกเกิดความผันผวนขึ้นอีกครั้งหากประชาชนส่วนใหญ่โหวตไม่เห็นด้วยกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญเพราะจะทำให้อิตาลีเสี่ยงต่อการออกจากยูโรโซน

นอกจากนี้ Bond yield 10 ปีของไทยและสหรัฐที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะยังกดดันให้ Fund Flow ต่างชาติยังไหลออก หุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน (PTT PTTEP) จะยังได้โมเมนตัมเชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงจึงมีความเสี่ยงที่จะถูกขายทำกำไรและให้ติดตามราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าประกอบการตัดสินใจ ส่วนหุ้นขนาดกลางถึงเล็กยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ โดยนักลงทุนอาจจะเลือกเข้าซื้อหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณในดัชนี SET50/100 รอบใหม่ที่คาดว่าจะประกาศรายชื่อในช่วงกลางเดือนคาดเข้า SET 50 (SPRC PTG GLOBAL) และ SET100 (TKN ESSO GFPT STA และ VIBHA)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : JMART (ซื้อ/เป้า Consensus สูงสุด 14.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/16 โตต่อเนื่องเป็น High Season และเก็งกำไรภาครัฐออกมาตรการช้อปปิ้งช่วยชาติในสัปดาห์หน้า

 

บล.แอพเพิลเวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.) ว่า แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี หลังโอเปกตัดสินใจลดกำลังการผลิต และส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลกลับมาสู่สินทรัพย์เสี่ยง เช่น น้ำมัน, สินค้าโภคภัณฑ์อีกครั้ง สุดสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามผลการลงประชามติ รธน. ของอิตาลีว่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่กับตลาดเงินตลาดทุนหรือไม่

กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET น่าจะอยู่ในแนวโน้มบวกและสามารถผ่านแนวต้าน 1,520 จุด ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,540 จุดในเดือน ธ.ค.นี้ แนะนำ Overweight กลุ่มพลังงาน & ปิโตร ซื้อ PTT (ราคาเป้าหมาย 397.00 บาท), PTTEP (ราคาเป้าหมาย 98.00 บาท) และ PTTGC (ราคาเป้าหมาย 70.00 บาท)

Back to top button