SET บ่ายแกว่งแคบ – ติดตามผลประชุม ECB ชู 10 หุ้นเด่น มีปัจจัยหนุน กลุ่มรับเหมานำทีม

SET บ่ายแกว่งแคบ - ติดตามผลประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ และผลประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า พร้อมแนวต้านระดับ 1,520 แนวรับ 1,500 จุด ชู 10 หุ้นเด่น มีปัจจัยหนุน นำโดย CK, SEAFCO ,PYLON, KTC, BEAUTY, BJC, HMPRO, ROBINS, COM7 และ PTTGC


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (7 ธ.ค.)แกว่งกรอบแคบ ด้วยวอลุ่มบาง หลังนักลงทุนชะลอการลงทุน เพื่อรอปัจจัยใหม่ในระยะสั้น ทั้งผลการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ และผลประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ด่านราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวนอยู่ ค่าเงินบาทก็อิงทางอ่อนค่า โดยทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายคาดจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ มีแนวต้านระดับ 1,520 แนวรับ 1,500 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งกรอบแคบ บวกลบ 2-3 จุด วอลุ่มบางตา นักลงทุนชะลอรอปัจจัยใหม่ โดยระยะสั้นรอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังผันผวนอยู่ หลังจากที่ดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้ก็ย่อตัวลงมาในวันนี้ ส่วนค่าเงินบาทก็อิงในทางอ่อนค่าในช่วงเข้าใกล้วันประชุมของเฟด ที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้

ส่วนแนวโน้มช่วงบ่ายน่าจะเทรดในกรอบแคบเหมือนช่วงเช้า ให้แนวต้าน 1,520 จุด แนวรับ 1,500 จุด ขณะที่ยังต้องจับตาการลงทุนของต่างชาติ หลังจากวานนี้ได้กลับเข้ามาซื้อสุทธิ แต่เบื้องต้นเห็นว่าแรงซื้ออาจจะยังไม่เข้ามาหนาแน่น เป็นเพียงการเทรดบ้างเท่านั้น โดยยังไม่ถึงกลับมี Flow ไหลเข้า

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (7 ธ.ค.) ว่า SET ภาคเช้าเคลื่อนไหวแคบตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่กลยุทธ์หลังแนะนำ “Selective” หุ้น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

1) Infrastructure plays อย่างกลุ่มรับเหมาฯ แนะนำ “ซื้อ” CK SEAFCO (คาดกำไรไตรมาส 4/59 ฟื้นตัวดีขึ้นจาก ไตรมาส 3/59 ขณะที่คาดกำไรปี 2560 จะเติบโตสูง +64%จากปีก่อนและซื้อขายที่ PE 12x ต่ำกว่ารับเหมาฯขนาดใหญ่มาก – แนวต้าน 11.5/12.5 บาท) และ PYLON โดยกลุ่มรับเหมาฯขนาดเล็กที่เน้นงานฐานราก จะรับรู้รายได้ และกำไรจากงานโครงสร้างพื้นฐานเร็ว และการรับงานขนาดใหญ่ทำให้ไม่ต้องย้ายเครื่องจักรบ่อยเป็นปัจจัยบวกต่ออัตรากำไร

2) Consumption plays เป็นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นบริโภคเพิ่มเติม แนะนำ “ซื้อ” KTC BEAUTY BJC HMPRO ROBINS COM7

3) กลุ่มพลังงาน “ซื้อ” PTTGC ที่เป็น laggard plays ที่ได้ผลดีจากราคาน้ำมันขึ้น

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

BTS   มูลค่าการซื้อขาย 733.41 ล้านบาท ปิดที่   8.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

PTT   มูลค่าการซื้อขาย 677.81 ล้านบาท ปิดที่ 364.00 บาท ลดลง  3.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 641.00 ล้านบาท ปิดที่  18.40 บาท ลดลง  0.20 บาท

BEM   มูลค่าการซื้อขาย 625.18 ล้านบาท ปิดที่   7.40 บาท ลดลง  0.15 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 578.12 ล้านบาท ปิดที่  89.75 บาท ลดลง  1.50 บาท

Back to top button