SET บ่ายแกว่งแคบ ชู 4 หุ้นกลุ่มค้าปลีก เก็งเข้าครม.สัปดาห์หน้า

SET บ่ายแกว่งแคบ พร้อมให้แนวต้าน 1,535 จุด แนวรับ 1,520 และ 1,510 จุด ชู 4 หุ้นกลุ่มค้าปลีก เก็งเข้าครม.สัปดาห์หน้า นำโดย BJC, BEAUTY, HMPRO และ COM7


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (ธ.ค.) ปรับขึ้น รับผลบวกจากผลประชุม ECB ที่ออกมาตามคาดในกรณีขยายระยะเวลาการทำ QE และพร้อมกลับมาใช้มาตรการหากมีความจำเป็น ส่งผลเป็น Sentiment บวกต่อการลงทุนในภูมิภาคเช้านี้ รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ขณะที่ราคาน้ำดิบที่ดีดตัวขึ้นช่วยหนุนภาพรวมการลงทุนอีกแรงหนึ่งด้วย ส่วนการซื้อขายภาคบ่ายมองว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ มี Upside จำกัด โดยให้แนวต้าน 1,535 จุด แนวรับ 1,520 และ 1,510 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนกรอบอิงทางบวกจากปัจจัยภายนอกที่เป็นบวก หลังผลการประชุมธนาคารยุโรป (ECB) ที่ออกมาตามคาดในกรณีการขยายระยะเวลามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปสิ้นสุดธ.ค.60 และจะทยอยปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรจาก 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน เหลือ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน เริ่มเม.ย.60 และให้คำมั่นต่อตลาดพอควรว่า พร้อมกลับมาใช้มาตรการกระตุ้นหากมีความจำเป็น ส่งผลให้ Sentiment การลงทุนในภูมิภาคเช้านี้รวมถึงตลาดหุ้นไทยให้อิงทางบวกได้

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นช่วยหนุนอีกแรง ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจตกลงลดกำลังการผลิตตามกลุ่มโอเปกได้

สำหรับทิศทางการลงทุนในช่วงบ่าย มองดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ มี Upside จำกัด ขณะที่ตลาดยังติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในสัปดาห์หน้าด้วย โดยให้แนวต้าน 1,535 จุด แนวรับ 1,520 และ 1,510 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (ธ.ค.) ว่า SET ภาคเช้า เคลื่อนไหวแคบก่อนหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลดีจากการปรับสูงขึ่นของราคาน้ำมันก่อนการประชุมระหว่าง OPEC กับ non-OPEC เพื่อลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม non-OPEC อีก 6 แสนบาร์เรล/วัน และกลุ่มธนาคาร แข็งแกร่งกว่าตลาด ขณะที่เรายังมองเป้าหมายปลายปีที่ 1,545 จุด เหมือนเดิม และ “ซื้อ” กลุ่ม Consumption plays ที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากนโยบายลดหย่อนภาษีในการซื้อสินค้า-บริการ 15,000 บาท ที่ ครม.จะพิจารณาสัปดาห์หน้า อย่าง BJC BEAUTY HMPRO COM7 รวมไปถึงกลุ่มสื่ออย่าง PLANB ที่กำไรเติบโตสูง 62-39% นี 2017-18 และได้รับผลดีจากการบริโภคที่ฟื้นตัวในระยะ 6-12 เดือน

ในขณะเดียวกัน แนะนำ”ซื้อ” KKP มองสินเชื่อกลับมาโตปีหน้า ขณะที่ปันผลสูง 7-8%: ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก ต้นทุนการเงินที่อยู่ในระดับต่ำ  เพียง 2.6%, การขาย NPA ที่ได้กำไรเพิ่มขึ้น, ยอดปล่อยสินเชื่อรถยนต์ที่จะกลับมาขยายตัว 5% ในปี 2017, และกำไร 3Q16 ที่ออกมาดี ทำให้เราปรับกำไรขึ้น 24-18% ในปี 2016-17 และมีจุดเด่นที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.6-8.2% ขณะที่ถ้าพิจารณาทางเทคนิคมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสั้นที่ 59/60.75/65 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT   มูลค่าการซื้อขาย 1,439.68 ล้านบาท ปิดที่ 367.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,155.45 ล้านบาท ปิดที่  92.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

SCB   มูลค่าการซื้อขาย   762.07 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

IVL   มูลค่าการซื้อขาย   686.40 ล้านบาท ปิดที่  32.75 บาท ลดลง  0.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย   587.33 ล้านบาท ปิดที่  60.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

                

Back to top button