SET ทรงตัว เกาะติดตัวเลขศก.สหรัฐฯคัด 12 หุ้นเด็ด เก็งกำไรกลุ่มสื่อ-ค้าปลีก
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวในกรอบจำกัดเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ชี้นำทิศทางตลาด ทั้งนี้แนะนำให้ ติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3/59 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะยังออกมาดีขึ้น ขณะที่คาดว่ายังมีแรงเก็งกำไรในหุ้นค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากมาตรการช็อปช่วยชาติ และกลุ่มสื่อที่ราคา Laggard
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.81 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อวันศุกร์ จากสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ หลังมีรายงานว่าเรือรบของกองทัพจีนได้ยึดโดรนสำรวจใต้ทะเลของสหรัฐในบริเวณทะเลจีนใต้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวในกรอบจำกัดเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ชี้นำทิศทางตลาด ทั้งนี้แนะนำให้ ติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3/59 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะยังออกมาดีขึ้น ขณะที่คาดว่ายังมีแรงเก็งกำไรในหุ้นค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากมาตรการช็อปช่วยชาติ และกลุ่มสื่อที่ราคา Laggard
หุ้นเด่นเลือก KKP-KTC-SCN-CPALL-BJC-HMPRO-BEAUTY-WORK-PLANB-ESSO-SCB และ TISCO
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (19 ธ.ค.) คาดว่าจะทรงตัวไปจนถึงอ่อนตัวลง เนื่องจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ อันเป็นผลจากความวิตกกระแสเงินทุนจะไหลออก หลังจธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในจำนวนครั้งที่มากกว่าคาดในปีหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯอาจจะปรับตัวสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ให้ติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 3/59 ประกาศครั้งที่ 3 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะยังออกมาดีขึ้น
นอกจากนี้ ภาพใหญ่ทั่วโลกไม่ได้มีประเด็นบวกใหม่เข้ามา ตอนนี้จึงต้องพึ่งปัจจัยในประเทศ โดยในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ น่าจะได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เข้ามาช่วยหนุน พร้อมให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม มองหุ้นจำพวก Soft Commodity น่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง อย่างพวกราคาสินค้าเกษตร, ยางพารา น่าจะขยับขึ้นตามหุ้นในกลุ่มน้ำมัน และเหล็ก ที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,518-1,507 จุด ส่วนแนวต้าน 1,532 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ธ.ค.) การประชุม กนง.วันที่ 21 ธ.ค.นี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 1.50% และไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาด ขณะที่แรงซื้อของกองทุน LTF ปลายปีนี้จะเป็นปัจจัยจำกัด Downside risk ของ SET ระยะสั้นที่บริเวณ 1,516 จุด ต่อไป ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาท และการเร่งตัวขึ้นของ bond yield ยังเป็นปัจจัยกดดันการไหลออกของกระแสเงินทุนต่อไป
แนะนำ “ซื้อ” KKP ที่นอกจากคาดการณ์สินเชื่อกลับมาเติบโต 5% ปีหน้า, PBV 1.18 เท่า และ PE 8.7 เท่า ค่อนข้างต่ำ ขณะที่ปันผลสูง 7.4-8.0% นอกจากนี้การถูกเพิ่มใน SET50 เป็นปัจจัยบวกระยะสั้น ขณะที่กลุ่มหุ้นหลักแนะนำ “ซื้อ” Consumption plays อย่างกลุ่มสื่อและกลุ่มค้าปลีก
1) “ซื้อ” Consumption, และ Infrastructure Plays : CPALL BJC BEAUTY WORK PLANB (Laggard Plays เมื่อเทียบกับ WORK มองแนวต้าน 5.55 และถัดไปที่ 5.90 บาท) CK
2)”ซื้อ” โรงกลั่น : ESSO ค่าการกลั่นสูง ราคาต่ำกว่า NAV มากที่สุดเมื่อเทียบกับโรงกลั่นอื่น (TradeCode ให้เป้าหมายระยะสั้นที่ 13.80/15.00 บาท)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ธ.ค.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัดเนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกลบใหม่เข้าสู่ตลาด ส่วน Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกตลอดต่อเนื่องในช่วง 4 วันที่ผ่านมาน่าจะชะลอตัวลง หลังค่าเงินบาทเริ่มทรงตัว ขณะที่ Dollar Index เริ่มลดลง โดยยังคาดหวังแรงซื้อจากกองทุน LTF และ RMF ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเป็นตัวพยุงตลาด หุ้นในกลุ่มพลังงานจะกลับมาเป็นที่น่าสนใจอีกครั้งหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว
ส่วนหุ้นขนาดกลางถึงเล็กจะยังมีแรงเก็งกำไรสลับไปมาในหลายๆ กลุ่ม โดยวันนี้มีกลุ่มที่น่าสนใจ คือ หุ้นที่เข้าคำนวณ SET50/100 รอบใหม่โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับเข้าคำนวณอย่างเหนือความคาดหมายคือ KAMART และ SCN รวมไปถึงหุ้นที่ยังอยู่ต่อและไม่ได้ถูกตัดออกอย่างที่ตลาดคาด อาทิ BCP และ GLOW
ขณะที่หุ้นที่หลุดโผอาจจะมีแรงขายออกมาคือ JAS GL STA ESSO GFPT และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ อาทิ KTC ROBINS BIG JMART ส่วนปัจจัยที่ตลาดต้องติดตามในสัปดาห์นี้คือการประชุม กนง. ในวันที่ 21 ธ.ค. ฝ่ายวิจัยและตลาดส่วนใหญ่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% ตามเดิมเป็นบวกต่อกลุ่ม Property และ กลุ่มไฟแนนซ์
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : KTC (เก็งกำไร /เป้า Consensus 150.00 บาท) ประชาชนแห่ซื้อสินค้ารับมาตรการช้อปช่วยชาติคึกคักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา, SCN (เก็งกำไร/เป้า Consensus 9.00 บาท) เข้าคำนวณ SET100 เหนือความคาดหมาย
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ธ.ค.) ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังคงถูกแรงกดดันจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ภาวะการซื้อขายหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากมาตรการช็อปช่วยชาติ สัปดาห์นี้ติดตามการประชุม BOJ วันอังคาร และการประชุม กนง. ในวันพุธ
กลยุทธการลงทุนประเมินดัชนี SET ยังแกว่งตัวในกรอบ 1,510 – 1,530 จุด แนะนำซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL, HMPRO / SCB, TISCO ( + อนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ SSI )