SET ไซด์เวย์ จับตาความตึงเครียดรัสเซีย-ตุรกีเลือกเก็บ 12 หุ้นเด็ดมีปัจจัยบวกหนุน-กำไรโต
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ยังจับตาดูสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตุรกี การลงทุนเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และแนวโน้มกำไรเติบโตดีเป็นหลั
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.86 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซียและตุรกี หลังนายอังเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ได้เสียชีวิตจากการถูกยิงในกรุงอังการา
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ยังจับตาดูสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตุรกี การลงทุนเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และแนวโน้มกำไรเติบโตดีเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก CPALL-BJC-BEAUTY-WORK-PLANB-CK-ESSO-KCAR-HANA-CPF-GFPT และ TFG
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (20 ธ.ค.) คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยชี้นำในช่วงนี้ อีกทั้งนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนบ้างแล้วหลังเข้าใกล้เทศกาลคริสต์มาส สำหรับการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 19-20 ธ.ค.นี้ ก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และคงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และไม่มีผลอย่างใดต่อตลาดฯ
อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านเราเชื่อว่าจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดภูมิภาค เนื่องจากบ้านเรามียังมีแรงหนุนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี่ยงชีพ (RMF) ซึ่งก็คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามามากขึ้นในครึ่งหลังเดือนนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,520-1,515 จุด ส่วนแนวต้าน 1,528-1,532 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ธ.ค.) ว่า SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ ด้วยปริมาณการซื้อขายลดลง โดยการ “เลือกซื้อ” หุ้นที่มีประเด็นบวก อย่างการถูกเพิ่มน้ำหนักใน SET50, ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/16 ออกมาดี, และได้รับผลดีจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นบริโภค คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด สำหรับการประชุม BOJ วันนี้คาดว่าจะยังไม่มีมาตรการใหม่หลังค่าเงินเยนอ่อนค่า และการประชุม กนง.วันที่ 21 ธ.ค. คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.50%
แนะนำ “เลือกซื้อ” Consumption plays อย่างกลุ่มสื่อ-ค้าปลีก
1)”ซื้อ” Consumption + Infrastructure plays: CPALL BJC BEAUTY WORK PLANB (กำไรเติบโตเด่น +62% ปีหน้า ขณะทีราคาหุ้นทะลุแนวต้าน 5.55 บาทวานนี้ เป้าหมายระยะสั้น 6.0/6.4 บาท) CK
2)”ซื้อ” โรงกลั่น : ESSO กำไรไตรมาส 4/16 จะออกมาดีจากค่าการกลั่นที่สูง และ ขณะที่คาดการณ์ค่าการกลั่นสูงต่อเนื่อง US$6.5
3)”ซื้อ” KCAR คาดกำไรเติบโตสูง 50% ปีนี้ ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของราคารถมือสอง (TradeCode ให้แนวต้าน 12.8/14)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ธ.ค.) คาดภาพรวมการลงทุนเป็นไปอย่างเงียบเหงาเช่นเดียวกับวานนี้ เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ชี้นำตลาดขณะที่ปริมาณการซื้อขายน่าจะเบาบางลง เนื่องจากนักลงทุนและผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศน่าจะชะลอการลงทุนเพื่อพักผ่อนยาวในช่วงวันคริสต์มาสและปีใหม่ ขณะเดียวกันคาดว่านักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อติดตามสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตุรกีหลังมีข่าวว่า นายอังเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกยิงเสียชีวิตที่กรุงอังการา และรอดูการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งตลาดส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ติดลบ 0.1% ตามเดิม ทำให้หุ้น Big Cap ในวันนี้น่าจะเคลื่อนไหว Sideway เหมือนเดิม
และเลือกเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอาทิ กลุ่มที่ได้ผลบวกจากมาตรการช้อปปิ้งช่วยชาติ (KTC ROBINS CPALL BIG JMART SPA และ กลุ่มที่เข้าคำนวณใน SET50/100 รอบใหม่ SET 50 : GLOBAL KKP PTG SPRC THAI , SET100 : BIG KAMART SCN SPRC SUPER TKN THANI VIBHA และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า HANA KCE CPF GFPT
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : HANA (ซื้อ/เป้า 43.00 บาท) หุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ธ.ค.) แนะนำให้ติดตามผลการประชุม BOJ คาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับ -0.1 % และน่าจะคงวงเงินซื้อพันธบัตรไว้ระดับเดิม เนื่องจากค่าเงินเยนในช่วงที่ผ่านมาเริ่มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่วันพรุ่งนี้ติดตามการประชุม กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5 %
กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,510 – 1,530 จุด ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นส่งออกไก่ เช่น CPF, GFPT, TFG ( + ปัญหาไข้หวัดนกในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ )