SET บ่ายแกว่งในแดนบวก 1,500-1,510แนะ“ซื้อ” AOT รับ 4 ปัจจัยบวกหนุนราคา

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ปิดภาคเช้า (26 ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อ LTF และ RMF รวมถึงการทำ Window Dressing เข้ามาช่วยหนุน แม้ยังไร้ปัจจัยอื่น ๆ  ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายคาดว่าดัชนียังแกว่งในแดนบวก รับปัจจัยเดียวกับภาคเช้า พร้อมให้แนวต้าน 1,520 จุด แนวรับ 1,505 จุด

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวขึ้น รับหนุนจากแรงซื้อของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) รวมถึงมีการทำ Window Dressing ผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวเพิ่มได้ แม้ว่าไม่มีปัจจัยใด ๆ ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปิดทำการเกือบทั้งหมดเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ตามยังมีตลาดหุ้นเอเชียในบางประเทศที่เปิดทำการ ได้แก่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นที่เปิดทำการในวันนี้ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนียังแกว่งตัวในแดนบวกลักษณะเช่นเดียวกับช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีแรงซื้อของกองทุน LTF และ RMF รวมถึงมีการทำ Window Dressing เป็นปัจจัยหนุน  พร้อมให้แนวต้าน 1,520 ขุด แนวรับ 1,505 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ธ.ค.) ว่า แม้ SET จะรีบาวด์จากแนวรับ 1,500 จุด ขึ้นมาได้ แต่เรายังกังวลต่อการ “พักฐาน” ของ SET ช่วงต้นปีหน้าเหมือนเดิม จาก 1) SET ปรับขึ้นแรง 17% ytd เทียบกับหุ้นทั่วโลก เสี่ยงต่อการขายปรับพอร์ตทำกำไรในปีหน้า 2) การลงทุนใน SET มีความน่าสนใจลดลง เนื่องจาก PE ปี 2017 ที่ 14.8x สูงกว่าค่าเฉลี่ย 2011-2016 ที่ 12.9x และ Bond Yield เร่งตัวขึ้นส่งผลให้ Earnings yield gap สิ้นปี 2017 ลดลงเหลือ 3.9% 3) การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะกดดันให้ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่า และกระแสเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง และ 4) การรีบาวด์จากแนวรับด้วย volume ที่เบาบาง แสดงถึงความเสี่ยงว่าจะรีบาวด์สัปดาห์นี้ เพื่อ “ปรับฐาน”ในต้นปีหน้า

ตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. +10.2% ที่ USD1.89  หมื่นล้าน กลับมาบวกอีกครั้ง จากสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตร หลังจากเดือนต.ค. -4.2% ยืนยันมุมมองของเราว่า farm income จะพลิกฟื้นกลับมาดี แนะนำ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มค้าปลีก-สื่อ

“ซื้อ” AOT…: 1) เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของผู้โดยสารในเดือน ธ.ค.แล้ว โดยผู้โดยสารเดือน พ.ย. +3.1% y-y และจำนวนเที่ยวบิน +7.1% y-y คาดเดือน ธ.ค. ผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอีก +8% y-y 2) การเปิดอาคารผู้โดยสารที่ 2 สนามบินดอนเมืองอย่างเต็มปี และ อาคารผู้โดยสารที่ 2 สนามบินภูเก็ตในเดือนต.ค. จะหนุนกำไร FY17 ให้เพิ่มขึ้น 3) ระยะสั้น มีประเด็นการแตกพาร์ช่วยหนุน 4) ทางเทคนิค ผ่านแนวต้านขึ้นมา ลุ้นเข้าทดสอบ 400-408 บาท   

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า 5 อันดับคือ

PTL    มูลค่าการซื้อขาย   650.17 ล้านบาท ปิดที่  15.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท

MTLS   มูลค่าการซื้อขาย   485.15 ล้านบาท ปิดที่  25.25 บาท เพิ่ทขึ้น 1.45 บาท

AOT    มูลค่าการซื้อขาย   478.45 ล้านบาท ปิดที่ 395.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

THAI   มูลค่าการซื้อขาย   427.21 ล้านบาท ปิดที่  23.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

GL     มูลค่าการซื้อขาย   307.87 ล้านบาท ปิดที่  55.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท