SET บ่ายแกว่งกรอบแคบ ไร้ปัจจัยใหม่หนุนแนะ “ซื้อ” GLOBAL ชู 4 ผลบวก เป้า 20 บ.
SET บ่ายแกว่งกรอบแคบ ไร้ปัจจัยใหม่หนุน พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด แนวต้าน 1,525 จุด โบรกฯ แนะ “ซื้อ” GLOBAL ชู 4 ผลบวก เป้าราคา 20 บาท
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ปิดภาคเช้า (27ธ.ค.) แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ย.ที่ออกมาดี ส่วนแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย คาดตลาดฯน่าจะเคลื่อนไหวไม่ต่างไปจากช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด แนวต้าน 1,525 จุด
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ต่างก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากตัวเลขการส่งออกในเดือนพ.ย.ที่ออกมาค่อนข้างดี เติบโต 10.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่การดีดตัวของดัชนียังอยู่ในกรอบที่จำกัดอยู่ เนื่องจาก Fund Flow ต่างชาติชะลอตัวตั้งแต่ช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯน่าจะแกว่งตัวแคบๆ เหมือนกันกับช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,525 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27ธ.ค.) ว่า SET เคลื่อนไหวแคบ ด้วย Downside Risk จำกัดปลายปี เนื่องจาก 1) การทำ Window Dressing ของกองทุนฯ และ 2) แรงซื้อจาก LTF ขณะที่นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ปรับพอร์ตไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ดี เรายังมีความกังวลต่อการ “พักฐาน” ของ SET ต้นปีหน้าเหมือนเดิม ทำให้นักลงทุนควร “จำกัด” พอร์ต โดยเฉพาะในกรณีที่ SET ปรับลดลงต่ำกว่า 1,510 จุด จะถือว่าเป็นสัญญาณ “ลบ” ทางเทคนิค
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” GLOBAL เป้าหมายพื้นฐาน 20 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การบริโภคภายในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวแข็งแกร่งมากขึ้นในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นรายได้ภาคการเกษตรที่ดีขึ้น, หนี้รถยนต์คันแรกที่ทยอยสิ้นสุดลงและค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี สนับสนุนการเติบโตได้ 2) GLOBAL กลับมาใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการขยายสาขา 7-8 สาขา/ปี อีกครั้ง รับประโยชน์การบริโภคฟื้นตัว 3) การเพิ่มสินค้า House Brand จะเป็นปัจจัยหนุนอัตรากำไรระยะยาว ขณะที่ราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่ออัตรากำไรใน 4Q16 และ 4) คาดการณ์กำไรเติบสูง 68% ปีนี้ และ 28-23% ในปี 2017-16 ถือว่าเป็น Growth plays ที่น่าสนใจ ระยะสั้นมีแนวต้านตาม Downtrend line ระยะยาวที่ 18 บาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า 5 อันดับคือ
PERM มูลค่าการซื้อขาย 535.96 ล้านบาท ปิดที่ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.74 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 452.18 ล้านบาท ปิดที่ 392.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
SRICHA มูลค่าการซื้อขาย 312.04 ล้านบาท ปิดที่ 21.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
TKN มูลค่าการซื้อขาย 300.73 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 275.27 ล้านบาท ปิดที่ 365.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง