SET ขยับขึ้น เลือกเก็บ 8 หุ้นฟอร์มโตพื้นฐานแน่น

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.01 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อทำกำไรหลังผ่านพ้นช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในทิศทางขาขึ้นแม้จะยังมีแรงกดดันจากการไหลออกของ Fund Flow ขณะที่ตลาดยังคาดหวังเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนช่วยประคองดัชนี การลงทุนแนะนำเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว หรือเลือกเก็บหุ้นพื้นฐานและปันผลดีในช่วงที่ยังมีการซื้อขายเบาบาง หุ้นเด่นเลือก GLOBAL-HANA-SCB-KBANK-BBL-PTT-PTTGC และ HANA

 

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (28 ธ.ค.)แกว่ง Sideway up คาดว่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และยังได้อานิสงส์จากเม็ดเงินของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ด้วยหลังจากที่เมื่อวานนี้เริ่มเห็นแรงซื้อจากกองทุนในประเทศเข้ามา

อย่างไรก็ตาม วอลุ่มเทรดคงจะบาง และนักลงทุนก็คงจะเล่นเทรดดิ้งกันได้ โดยยังแนะนำหุ้นพื้นฐานดี และมีปันผล ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ  พร้อมให้แนวรับ 1,515-1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 – 1,527 จุด

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ธ.ค.) วานนี้ SET ยังสามารถปรับตัวบวกได้เล็กน้อยโดยมีตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัว 10.2% เป็นปัจจัยหลัก อีกส่วนหนึ่งตลาดตอบรับข่าวดีประเด็นคสช.ใช้ม.44 แก้ปัญหาเดินทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วงช่วงเตาปูน-บางซื่อ นอกจากนี้ครม.ได้มีการอนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ.ล้มละลาย ปรับปรุงกระบวนการฟื้นฟูกิจการ-เพิ่มกม.รองรับการล้มละลายในตปท.โดยกฏหมายนี้จะส่งผลดีต่อธนาคารร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์สามารถสืบหาทรัพย์ได้ในต่างประเทศเป็นครั้งแรกคาดจะส่งผลดีต่อธุรกิจธนาคารช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ

ประเมินวันนี้ดัชนีมีแนวโน้ม Sideway เชิงบวก กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เก็งกำไรสั้นๆ ในหุ้นที่มีแนวโน้มบวก โดยวางแนวรับ-แนวต้านไว้ที่ 1,510-1,525 จุด แนะนำ SCB KBANK BBL (รับผลบวกพรบ.ล้มละลายฯ) PTT, PTTGC (ขึ้นตามราคาน้ำมัน)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ธ.ค.) ยังมองการฟื้นตัวของ SET สัปดาห์นี้ เป็นผลของ 1) Window Dressing ปิดงวดสิ้นปี และ 2) แรงซื้อจากกองทุน LTF มากกว่าที่จะเป็นเครื่องชี้วัดแนวโน้ม และกลยุทธ์ลงทุนปีหน้า ขณะที่ยังมีความกังวลต่อการ “พักฐาน” ของ SET ในช่วงต้นปีหน้าเหมือนเดิม จาก 1) การปรับขึ้นของ Bond Yield ระยะยาวส่งผล Earnings yield gap ที่ 3.5-3.8% ในปี 2016-17 ไม่น่าสนใจ 2) Valuation ที่ PE 14.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย 2011-16 ที่ 12.9x และ 3) แรงขาย LTF ช่วงต้นปีหน้าประมาณ 2-2.5 หมื่นล้านบาท

แนะนำ “ซื้อ” GLOBAL เป้าหมายพื้นฐาน 20 บาท จาก 1) การบริโภคภายในประเทศเร่งตัวปีหน้า ด้วยแรงสนับสนุนจากรายได้ภาคการเกษตรดีขึ้น, หนี้รถยนต์คันแรกที่ทยอยสิ้นสุดลง และลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่ม 2) ขยายสาขาเชิงรุก 7-8 สาขา/ปี 3) การเพิ่มสินค้า House Brand จะเป็นปัจจัยหนุนอัตรากำไรระยะยาว ขณะที่ราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่ออัตรากำไรในไตรมาส 4/16 และ 4) Growth play คาดกำไรโต +68% ปีนี้ และ 28-23% ในปี 2017-16 ขณะที่ทางเทคนิคมีแนวต้านระยะสั้นที่ 18/18.50 บาท หรือถัดไปที่ 19.5 บาท

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ธ.ค.) ยังมีมุมมองบวกโดยคาด SET จะเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางขึ้นแม้ระยะสั้นจะมียังมีแรงกดดันจากการไหลออกของ Fund Flow ต่างชาติ ซึ่งเป็นการปรับพอร์ตหลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ยังคาดหวังเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน LTF และ RMF ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีจะช่วยประคองดัชนีเช่นเดียวกับเมื่อวานที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายจะยังเบาบางเนี่องจากอยู่ในช่วงหยุดพักผ่อนยาวในเทศกาลปีใหม่ หุ้นในกลุ่มพลังงานน่าจะกลับมาฟื้นตัวหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้นและปิดสูงที่สุดในรอบกว่า 18 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.60 จะทำให้ราคาน้ำมันดิบในปีหน้าเพิ่มขึ้น

ส่วนหุ้นขนาดกลางถึงเล็กยังเน้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มที่คาดว่าจะเป็นเป้าในการทำ Window dressing ของกองทุน และกลุ่มที่จะเข้าคำนวน SET50/100 รอบใหม่ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : HANA (ซื้อ/เป้า 43.00 บาท) หุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า