SET บ่ายอาจถูก Take profit – ไร้ปัจจัยหนุนโบรกฯ แนะ “ซื้อ” 8 หุ้นเด่น หุ้นกลุ่มค้าปลีก-สื่อ

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ปิดภาคเช้า ( 29 ธ.ค.)ได้แรงซื้อจาก LTF/RMF ช่วยหนุนแม้เม็ดเงินบางกว่าทุกปี ด้านตลาดภูมิภาคช่วงเปิดเทรดติดลบตามดาวโจนส์ แต่เริ่มขยับขึ้นเป็นบวกได้บ้าง ทั้งนี้ ตลาดฯไร้ปัจจัยใหม่หนุน มีเพียงแต่ข่าวของหุ้นรายตัว บ่ายนี้อาจเจอ take profit บ้างหลังขึ้นไป 3-4 วันต่อเนื่อง และใกล้ช่วงหยุดยาว รวมถึง January effect มองเป็นลบ ให้แนวรับ 1,523 ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด

 

น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังได้แรงซื้อจากเม็ดเงินของกองทุน LTF และ RMF แม้ว่าเม็ดเงินจะบางกว่าทุกปีที่ผ่านมา ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้ในช่วงเปิดเทรดส่วนใหญ่จะติดลบตามดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ในเวลาต่อมาก็สามารถค่อย ๆ ขยับขึ้นเป็นบวกได้บ้าง

ทั้งนี้ ตลาดฯยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา จะมีก็เป็นข่าวของหุ้นเป็นรายตัวไป อย่างหุ้น IFEC เป็นต้นแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯอาจเจอแรง take profit บ้าง เพราะปรับตัวขึ้นไป 3-4 วันต่อเนื่อง อีกทั้งจะมีวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย รวมไปถึงเดือนหน้าตลาดฯน่าจะเป็นลบมากกว่าหากมองไปที่ January effect  พร้อมให้แนวรับ 1,523 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ธ.ค.) ว่า เคลื่อนไหวแคบ จากเงิน LTF หนุนต่อเนื่อง ขณะที่แรงขายนักลงทุนต่างชาติเริ่มแผ่วลงแล้วก่อนสิ้นปี คาด SET แกว่งตัวแคบในขาขึ้นต่อไปจนถึงสิ้นสัปดาห์ เนื่องจากเม็ดเงินจาก LTF ปีนี้ เป็นเม็ดเงินที่กระจุกตัวในกอง LTF บางกอง กดดันให้ต้องรีบซื้อหุ้นเร็วก่อนสิ้นปี (เช่น กองทุนขนาด 9 พันล้านบาท แต่มีเงินไหลเข้า 2 พันล้านบาท ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ทำให้สัดส่วนเงินสดสูงเกินไป และต้องเร่งซื้อหุ้นก่อนสิ้นปี) อย่างไรก็ดี เรายังคงกังวลว่า SET มีโอกาส “ปรับฐาน” ในต้นปี 2017 ด้วย 1) แรงขายจาก LTF (จากการที่กองทุนบางกอง ขายได้น้อย ทำให้ไม่มีเงินสดรองรับการขายออกของ LTF ในต้นปีมากนัก) 2) การปรับพอร์ตการลงทุนจากการที่ SET ปรับขึ้นโดดเด่น +18% ในปีนี้เหนือกว่าตลาดส่วนใหญ่ทั่วโลก 3) Valuation ของ SET ไม่อยู่ในระดับที่ถูก ด้วย PE 15 เท่า 4) กระแสเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มจะไหลออกต่อเนื่องในต้นปีหน้า

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มค้าปลีก-สื่อ ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ BEAUTY BJC CPALL GLOBAL MC ROBINS และ PLANB WORK ล่าสุดราคาข้าวเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาที่ 1.1-1.2 หมื่นบาท/ตัน ราคายางและอ้อยที่ปรับขึ้น อยู่ในระดับที่สูง ขณะที่ระดับน้ำในเขื่อนเริ่มเอื้อต่อการทำนานอกฤดูในปีหน้าหนุนภาคการบริโภคฟื้นตัว

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า 5 อันดับคือ

BANPU   มูลค่าการซื้อขาย  596.82  ล้านบาท ปิดที่   18.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

TASCO   มูลค่าการซื้อขาย  375.22 ล้านบาท ปิดที่    19.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

PTT     มูลค่าการซื้อขาย  366.20  ล้านบาท ปิดที่  370.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

PERM    มูลค่าการซื้อขาย  349.92  ล้านบาท ปิดที่    5.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

AMC     มูลค่าการซื้อขาย  321.92  ล้านบาท ปิดที่    4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท