จัดทัพ 17 หุ้นเด็ดฟอร์มดี รับมือปีระกาSET ผันผวน ระวังแรงขายก่อนหยุดยาว
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังมีโอกาสปรับขึ้นในกรอบจำกัดตามทิศทางตลาดภูมิภาค อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายอาจผันผวนและมีโอกาสปิดลบเนื่องจากแรงเทขายทำกำไรก่อนเข้าสู่วันหยุดยาว ขณะที่ดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 2.3% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา การลงทุนเน้นเก็งกำไรสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือเลือกเก็บหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการปีหน้าดี
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.23 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.79 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวก นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังมีโอกาสปรับขึ้นในกรอบจำกัดตามทิศทางตลาดภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายอาจผันผวนและมีโอกาสปิดลบจากแรงเทขายทำกำไรก่อนเข้าสู่วันหยุดยาว ขณะที่ดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 2.3% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา การลงทุนเน้นเก็งกำไรสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือเลือกเก็บหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการปีหน้าดี
หุ้นเด่นเลือก SAWAD-GLOBAL-KKP-STEC-UNIQ-SEAFCO-BEM-AOT-CK-CPALL-HANA-IVL-LH-PTTGC-TISCO-TKN และ TPCH
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (30 ธ.ค.) คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินของกองทุน LTF และ RMF อีกทั้งยังมีการทำ Window Dressing ช่วยหนุนตลาดฯด้วย
รวมไปถึงเริ่มเห็นสัญญาณการซื้อคืนของนักลงทุนต่างชาติ จากที่เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิค่อนข้างมาก โดยค่าเงินในภูมิภาคเริ่มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เชื่อว่า Fund Flow น่าจะไหลกลับเข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,545 ถัดไป 1,550-1,555 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ธ.ค.) ว่า แม้ฝ่ายวิจัย Underestimate แรงซื้อจากกองทุน LTF และ Window Dressing ที่สนับสนุน SET ปรับสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้ แต่ยังมีความกังวลต่อการ “พักฐาน” ของ SET ต้นปีไม่แปลี่ยนขณะที่ต้องระวังแรงขายที่ “แนวต้าน” แนะนำ “ซื้อ” SAWAD รวมถึง SET50 Plays อย่าง GLOBAL KKP
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ธ.ค.) คาด SET ภาคเช้ายังดีเพราะได้โมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องจากเมื่อวานแต่บ่ายอาจผันผวนและมีโอกาสปิดลบเนื่องจากดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 2.3% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมาจะจูงใจให้นักลงทุนเทขายทำกำไรประกอบกับนักลงทุนบางส่วนจะลดพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วน January effect หรือ ปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นมักจะให้ผลตอบแทนสูงขึ้นในเดือนมกราคมมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยจาก 1) SET มี Upside จำกัด โดย YTD +18%ตรงข้ามกับปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นขาลงทำให้นักลงทุนเข้าซ้อนซื้อหุ้นที่ร่วงแรงในช่วงต้นปี
2) คาดนักลงทุนต่างชาติจะยังขายปรับพอร์ตก่อนที่นายโดนัลทรัมป์จะขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 21 ม.ค.17 และ 3)มีแรงกดดันจากกองทุน LTF ที่ถือตั้งแต่เริ่มโครงการและซื้อเมื่อปี 2013 จะขายทำกำไรเนื่องจาก SETในปี 2013 ช่วงปลายปีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200 – 1,300 จุดหรือมีกำไรเมื่อเทียบกับดัชนีปัจจุบัน 18%
ยังเน้นลงทุนในหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการในปีหน้าเติบโตดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า(HANA) กลุ่มที่คาดว่าจะเป็นเป้าในการทำ Window dressing ของกองทุน และ กลุ่มที่จะเข้าคำนวน SET50/100 รอบใหม่ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy
หุ้นถือข้ามปี : HANA (ซื้อ/เป้า 43) ราคาหุ้นของผู้ประกอบการ Semi Conductor ทั่วโลกปรับขึ้นทำ Newhigh ขานรับยอดขาย Semi Conductor เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ HANA ซึ่งราคาหุ้นมี Correlation กับยอดขาย Semi Conductor สูงถึง 90% แต่ราคาในปีนี้ยังไม่ตอบรับกับข่าวดังกล่าว
ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปีนี้ : ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์
Top picks ปี 2017 : AOT, CK, CPALL, HANA, IVL, LH, PTTGC, TISCO, TKN และ TPCH
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ธ.ค.) คาดวันนี้ดัชนีหุ้นไทยยังคงปรับตัวได้จำกัดจากปริมาณการซื้อขายมีไม่มากนักในวันทำการสุดท้ายก่อนหยุดยาว ประเมินวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวซึมตัว กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ทยอยขายทำกำไร โดยมีแนวรับ 1,520 จุด แนวต้าน 1,540 – 1,550 จุด แนะนำ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง STEC UNIQ SEAFCO BEM ( + ประมูลรถไฟฟ้าต่อขยายปี 60)