ชง 21 บจ.รสเด็ด ปรับแผนลงทุนหุ้นปีไก่SET วันแรกลุ้นขึ้นตามตลาดต่างประเทศ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยเปิดทำการซื้อขายวันแรกของปี 2017 เคลื่อนไหวผันผวน อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามภูมิภาคหลังสหรัฐฯและจีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจสดใส กลยุทธ์การลงทุนปีนี้ เน้นหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่คาดว่าจะสูงขึ้น และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นการลงทุนในประเทศ รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.89 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน (3 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันทำการวันแรกของปี 2560 หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวขึ้น 1.5% สู่ระดับ 54.7 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2558 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 53.2 ในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยเปิดทำการซื้อขายวันแรกของปี 2017 เคลื่อนไหวผันผวน อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามภูมิภาคหลังสหรัฐฯและจีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจสดใส กลยุทธ์การลงทุนปีนี้ เน้นหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่คาดว่าจะสูงขึ้น และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นการลงทุนในประเทศ รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า
หุ้นเด่นเลือก TISCO-WORK-PLANB-GLOBAL-STA-BEAUTY-RJH-KBANK-SCB-KTB-HANA-AOT-CK-CPALL-HANA-IVL-LH-PTTGC-TISCO-TKN และ TPCH
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.) ว่า การซื้อขายช่วงสัปดาห์สุดท้ายของ ธ.ค. ยังมีแรงซื้อจากกองทุน LTF, RMF ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิและยังคงมีสถานะ OI (Open Interest) ใน Index Futures จำนวน 2.83 แสนสัญญา ซึ่งสะท้อนมุมมองยังเป็น Neutral ต่อตลาดหุ้นไทย สำหรับวันนี้ ติดตามรายงานผลประชุม FOMC ธ.ค. ที่ผ่านมา และวันศุกร์รอรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร สหรัฐ ธ.ค. คาดที่ 1.8 แสนราย ซึ่งจะสะท้อนทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ
กลยุทธ์การลงทุน : วาง Filter แนวรับสำคัญดัชนี SET ที่ 1,520 จุด หากยืนได้ดัชนียังไม่สัญญาณลบใดๆ แนะนำเก็งกำไรโดยวางแนวต้านที่ 1,550 จุด แนะนำซื้อ KBANK, SCB และ KTB (+คาดแนวโน้มสินเชื่อฟื้นตัวตามการลงทุนภาครัฐในปีนี้)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนและมีโอกาสขึ้นต่อตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอย่างสดใสโดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ธ.ค. ซึ่งจัดทำโดย Caixin ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.9 จาก 50.9 ในเดือน พ.ย. และเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องติดตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐว่าจะแข็งค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้ Fund Flow ต่างชาติกลับมาไหลออก ส่วนกลยุทธ์การลงทุนปีนี้ เน้นหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่คาดว่าจะสูงขึ้น คือกลุ่มพลังงาน และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นการลงทุนในประเทศ คือกลุ่มรับเหมาก่อสร้างรวมทั้งกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคาร และวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า อาทิ กลุ่มส่งออก และ โรงพยาบาล และ ท่องเที่ยว
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : HANA (ซื้อ/เป้า 43.00 บาท) ยอดขาย Semi Conductor เดือน พ.ย.พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปีนี้ : ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์
Top picks ปี 2017 : AOT, CK, CPALL, HANA, IVL, LH, PTTGC, TISCO, TKN และ TPCH
ขณะที่ บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.) ว่า แม้ SET ปรับสูงขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงปลายปีที่แล้ว จากแรงซื้อ LTF และ Window Dressing แต่ด้วย Valuation ที่สูง ด้วย PE 15.1 เท่า, แนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของ Bond yield ตลอดปีนี้, Earnings yield gap ที่ลดลงเหลือ 3.9% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 4%, และแรงขายจากกองทุน LTF ช่วงต้นปี ทำให้มีความกังวลต่อความ “พักฐาน” ของ SET ในช่วงต้นปี ด้วยกรอบการเคลื่อนไหว 1,526-1,558 จุด
แนะนำ “ซื้อ” TISCO ที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น 6.3-17% ในปี 2017-18 หลัง “ซื้อ” พอร์ตสินเชื่อรายย่อยจาก SCBT รวมถึงกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไรเติบโตสูง (Growth plays) ปีนี้ ได้แก่ : WORK (ขึ้นค่าโฆษณาตั้งแต่ไตรมาส 1/17), PLANB (กำลังซื้อฟื้นตัว รายได้จากธุรกิจ Sport Marketing), GLOBAL (กำลังซื้อฟื้น ผลดีราคาเหล็กปรับสูงขึ้น) STA (แนวโน้มราคายางยังแข็งแกร่ง) BEAUTY (ขยายสาขาทั้งใน และต่างประเทศ หนุนกำไรโต 62-42% ในปี 2016-17) และ RJH (กำไรเติบโตสูงสุดในกลุ่มโรงพยาบาล 53-29% ในปี 2016-17)