SET บ่ายแกว่งแคบ-ไร้ปัจจัยใหม่หนุนโบรกฯ แนะ “ซื้อ” IRPC ชูเป้า 7 บาท
SET บ่ายแกว่งแคบ ให้แนวต้าน 1,575 แนวรับ 1,560 จุด โบรกฯ แนะ “ซื้อ” IRPC ชูเป้า 7 บาท
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (6 ม.ค.) แกว่งแคบหลังขึ้นไปค่อนข้างมากแล้ว โดยมองตลาดฯช่วงนี้น่าจะเทรดรอปัจจัยใหม่-รอติดตามทิศทาง Fund Flow ส่วนตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งในแดนบวก บ่ายนี้ตลาดฯน่าจะแกว่งในกรอบแคบเหมือนช่วงเช้า ให้แนวต้าน 1,575 แนวรับ 1,560 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผุ้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ หลังจากในช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมาก แนะนักลงทุนยังต้องจับตา Fund Flow ของต่างชาติ จากเมื่อวานนี้เริ่มเห็นการชะลอซื้อ และไปอยู่ในฝั่งขายในตลาดอนุพันธ์
อย่างไรก็ตาม ตลาดฯในช่วงนี้น่าจะเทรดกรอบแคบเพื่อรอปัจจัยใหม่ โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกที่ยังมีอิทธิพลอยู่ เช่น นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ใกล้จะได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นต้น ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบต่อไป โดยมีโอกาสเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวต้าน 1,575 จุด แนวรับ 1,560 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ม.ค.) ว่าเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากปรับสูงขึ้นแรงตั้งแต่ปีใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นการรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานสหรัฐฯ คืนนี้…ด้วย Momentum บวกจาก 1) การปรับสูงขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และ 2) นักลงทุนทั่วโลก Risk-on จากแนวโน้มการเร่งตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ SET ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อไปที่แนวต้านระยะยาวบริเวณ 1,585 จุด
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” IRPC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 7.00 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงาน 4Q16 มีแนวโน้มออกมาแข็งแกร่งจากค่าการกลั่น (GRM) ที่อยู่ในระดับสูง และรับรู้ผลบวกจากโครงการ UHV เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานทั้งปี 2016 ขยายตัวสูง +122% ที่ 1.05 หมื่นล้านบาท 2) แนวโน้มค่าการกลั่น และส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรกับวัตถุดิบอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในปี 2017 จาก Demand ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า Supply รวมไปถึงการเพิ่มกำลังการผลิต Polypropylene กลางปี สนับสนุนการเติบโตกำไรต่อเนื่อง +17% ปีนี้เป็น 1.23 หมื่นล้านบาท 3) Valuation ถูก ด้วย PE 8x และปันผล 4.7-6.2% มอง Downside Risk จำกัด ขณะทีทางเทคนิคทะลุ Downtrend line ที่ 4.90 บาท มีโอกาสขึ้นต่อไปที่ 5 หรือถัดไปที่ 5.25 บาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,678.87 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,182.70 ล้านบาท ปิดที่ 7.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,121.90 ล้านบาท ปิดที่ 19.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 828.73 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 823.13 ล้านบาท ปิดที่ 387.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง