SET ผันผวน ระวังแรงขายทำกำไรชู 11 บจ.ดาวเด่น ผลประกอบการโต

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวน และมีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน ดัชนีที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 9 วันที่ผ่านมาจะจูงใจให้นักลงทุนขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่ลดลงแรง เนื่องจากยังมีแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติ การลงทุนเน้นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และแนวโน้มกำไรเติบโตดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.74 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือน ธ.ค. แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวน และมีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน ดัชนีที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 9 วันที่ผ่านมาจะจูงใจให้นักลงทุนขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่ลดลงแรง เนื่องจากยังมีแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติ การลงทุนเน้นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นและแนวโน้มกำไรเติบโตดี

หุ้นเด่นเลือก SUSCO-PTL-TFI-AJ-LPN-PSH-LH-SPALI-BCP-IRPC และ SPRC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ม.ค.) ว่า SET มีแนวโน้ม Sideways up ไปที่แนวต้านระยะสัปดาห์ที่ 1,585 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) นักลงทุนทั่วโลกยังให้น้ำหนักต่อแนวโน้มการเร่งตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นโลก และ SET แม้เมื่อพิจารณาในเชิง PE จะอยู่ในระดับสูงก็ตาม 2) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น เป็นปัจจัยหนุนทั้งกลุ่มพลังงาน และ Soft commodity

แม้มอง Upside ของ SET “จำกัด” ที่ PE 15.4 เท่า ในปัจจุบัน แต่ Momentum ตลาดโดยรวมยังแข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้จากหุ้นในรายงาน TradeCode ที่มี Momentum “บวก” สูงถึง 85% ของ Market cap ทำให้ยังสามารถ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่มีประเด็น “บวก” และคาดกำไร 4Q16 ออกมาดี

1)”ซื้อ” SUSCO (Initiation) มองเป็น Value + Growth plays ด้วยการขยายสถานีบริการน้ำมันที่เร่งตัวขึ้น PE ต่ำ 11 เท่า และ PBV 1.1 เท่า

2) Earnings plays…”ซื้อ” IRPC คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/16 เติบโตเด่นจากค่าการกลั่นสูง, รับรู้ UHV เต็มไตรมาส, และกำไรสต็อกน้ำมัน, RJH, และ WHA กำไรจากขายสินทรัพย์เข้า REIT และ IPO ธุรกิจไฟฟ้าต้นปีนี้

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ม.ค.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด และมีโอกาสปรับตัวลง เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกและลบใหม่เข้าสู่ตลาด ประกอบกับดัชนีที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 9 วันที่ผ่านมา (SET +4.5%) จะจูงใจให้นักลงทุนทยอยเทขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะไม่ลดลงแรง เนื่องจากยังมีแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังไหลเข้าในตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นบ้านเราน่าจะช่วยพยุงดัชนีเอาไว้ได้

หุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรฯยังได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มสื่อสาร และธนาคารน่าจะยังพักตัวเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนหุ้นขนาดกลางถึงเล็กน่าจะเห็นการสลับกลุ่มเก็งกำไร โดยวันนี้กลุ่มปิโตรฯเคมีขั้นปลาย (PTL TFI AJ) จะยังได้รับความสนใจต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังราคาและส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เช่น เดียวกับกลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH LH SPALI) น่าจะมีแรงเก็งกำไรหลังจากมีข่าวกระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯรอบ 2

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : LH (ซื้อ/เป้า 12.00 บาท) เก็งกำไรข่าวภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯรอบ 2

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ม.ค.) ว่า SET ได้แรงหนุนจากทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี สำหรับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ธ.ค. ที่น้อยกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้แรงกดดันการเร่งขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐลดลง สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 11 ม.ค. นี้ เพื่อติดตามแนวนโยบายบริหารการค้าการลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน วาง Filter แนวรับไว้ที่ 1,550 – 1,560 จุด หากยืนได้ทิศทางดัชนี SET ยังคง Sideway Up โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,600 จุด แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น BCP, IRPC , SPRC (ค่าการกลั่นไตรมาส 4/59 +32% จากไตรมาสก่อน และค่าการกลั่นที่สิงค์โปร์เช้านี้อยู่ที่ระดับ 7.25 USD./บาร์เรล)

Back to top button