SET บ่ายซึมตัว – ติดตามแรงขาย LTFโบรกฯ แนะ “ซื้อ” WHA เป้า 3.80 บาท

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (9 ม.ค.) แกว่งตัวลง เหตุเงินทุนต่างชาติชะลอการไหลเข้า เพื่อรอความชัดเจนนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ขณะเดียวกันเจอแรงขายจาก LTF ที่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในเดือนม.ค. ส่วนบ่ายนี้ตลาดฯคงจะซึม เพราะช่วงที่ผ่านมาถือว่า Overbought พร้อมให้แนวต้าน 1,575 แนวรับ 1,560-1,550 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งตัวลง เนื่องจากเงินทุนต่างชาติชะลอการไหลเข้า แต่อย่างไรก็ตามเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามายังไม่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากยังต้องรอดูความชัดเจนจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ว่าจะมีการใช้นโยบายเศรษฐกิจอย่างไร

ในขณะเดียวกันยังคงต้องติดตามแรงขายของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีแรงขายออกมาในช่วงเดือนม.ค. ของทุก ๆ ปีอยู่แล้ว

“ในช่วงที่ผ่านมาต่างชาติมีแรงซื้อเข้ามา และกองทุนก็มีแรงซื้อตามเข้ามาด้วย แต่โดยรวมคงยังไม่ชัดเจนมากนัก เพราะตอนนี้ปริมาณเงินไหลเข้าก็เริ่มชะลอลงแล้ว ต้องมาดูถึงนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯก่อนว่าจะมีนโยบายเศรษฐกิจอย่างไร จึงจะบอกได้ว่าเงินต่างชาติมีแนวโน้มไหลเข้าจริงหรือไม่ ในขณะเดียวกัน LTF น่าจะมีผลตอบแทนที่ค่อนข้างมากแล้วจึงยังต้องระมัดระวังแรงขายออกมาซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม”น.ส.ธีรดา กล่าว

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะซึมๆ เพราะช่วงที่ผ่านมาถือว่า Overbought พร้อมให้แนวต้าน 1,575 จุด และแนวรับ 1,560-1,550 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ม.ค.) แรงขายหุ้นใหญ่กดดัน SET ตั้งแต่เปิดตลาด แรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน และสื่อสาร หลังคาดการณ์ผลการดำเนินงาน ไตรมาส 4/59 DTAC จะยังอ่อนแอสวนทางกับราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้นแรงก่อนหน้านี้ กดดัน SET ตั้งแต่เปิดตลาด แม้ Momentum ตลาดแข็งแกร่ง จากความคาดหวังต่อการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ Valuation ตลาดที่สูงทำให้แนะนำให้ตั้ง Trailing stop หรือ “จุดจำกัดขาดทุน” ไว้ที่ 1,552 จุด เป็นจุดตัดสินใจในการลดพอร์ต ขณะที่เรายังแนะนำ “ซื้อ” SUSCO ที่เป็น Growth + Value Play เป้าหมายพื้นฐาน 5.0 บาท และ Growth plays อย่าง IRPC WHA RJH

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” WHA เป้าหมายพื้นฐาน 3.80 บาท แม้ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าและขายที่ดินในนิคมฯ ไม่ได้เติบโตมากนัก แต่ 1) การขายสินทรัพย์ เข้ากอง REIT 1.2 หมื่นล้านบาทปลายปีก่อน หนุนกำไร 4Q16 เติบโตแกร่ง 2) การนำธรกิจไฟฟ้า และสาธารณูปโภค (WHAUP) มา IPO ใน 1Q17 เป็น Catalyst ต่อราคาหุ้นในช่วง 1Q17 และเป็นการ “ปลดล็อก” มูลค่าธุรกิจไฟฟ้าที่มีการเติบโตสูงจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นด้วย 3) ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ผลการดำเนินงานธุรกิจไฟฟ้าที่เติบโตหนุนกำไรเติบโตสูง +45% ปีนี้เป็น 3.1 พันบล้านบาท และ 4) ในทางเทคนิคทะลุแนวต้านระยะสัปดาห์ พร้อมสัญญาณซื้อใน MACD เป้าหมายระยะสั้น 3.32 บาท

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย  2,741.50  ล้านบาท ปิดที่  62.00 บาท ลดลง  1.75 บาท

BANPU  มูลค่าการซื้อขาย  1,917.82  ล้านบาท ปิดที่  19.80 บาท ลดลง  0.30 บาท

IRPC  มูลค่าการซื้อขาย  1,527.61  ล้านบาท ปิดที่   5.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท         

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย    930.98  ล้านบาท ปิดที่ 184.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

IVL  มูลค่าการซื้อขาย    712.52  ล้านบาท ปิดที่  36.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง