SET ลุ้นผ่านด่านแรกก่อนวัด 1,600 จุดชง 11 หุ้นเด่น เน้นเก็บอสังหาฯปันผลสูง

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.59 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นบริษัทเหมืองแร่ หลังราคาโลหะและสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ขานรับตัวเลขเงินเฟ้อของจีนที่ขยายตัวเร็วขึ้น นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป และดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ Sideway Up ตลาดยังแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากการไหลเข้าของกระแสเงินทุนจากต่างประเทศหนุนหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามอาจมีแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในคืนวันนี้ หากดัชนีสามารถผ่านแนวต้าน 1,575 จุดได้ มองแนวต้านถัดไปที่ 1,600 จุด

การลงทุนเน้นกลุ่มที่ผลการดำเนินงานเติบโตสูง และหุ้นอสังหาฯที่ปันผลสูง หุ้นเด่นเลือก SAT-STA-TRUBB-WORK-WHA-TASCO-LH-LPN-PSH-QH และ SPALI

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.) ว่า Reward to Risk ของ SET ที่ 1,572 จุด แม้มองว่าเป็นความเสี่ยง แต่ไม่ใช่จุดที่น่าสนใจ แต่ Momentum ตลาดยังแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากการไหลเข้าของกระแสเงินทุนจากต่างประเทศหนุนหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร (KBANK BBL SCB KTB) ประเมินแนวต้านอิง Downtrend ตั้งแต่ปี 2013 ที่ 1,585 จุด และเลื่อน Trailing Stop ขึ้นมาที่ 1,558 จุด

แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานเติบโตสูง (Growth plays) 1) “ซื้อ” STA : น้ำท่วมภาคใต้ไม่ส่งผลการผลิตของ STA ขณะที่ราคายางที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนกำไรปี 2016-17 โต 390-158% y-y

2) “ซื้อ” WORK : เม็ดเงิน Digital TV เดือน ธ.ค.ฟื้นตัว +14.84% แม้คาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/16 ของ WORK ไม่ดี แต่จะ Turnaround ตั้งแต่ไตรมาส 1/17 จากการขึ้นค่าโฆษณา ทั้งปีกำไรโต +268%

3) “ซื้อ” WHA : นอกจากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/16 ที่จะเติบโตแข็งแกร่งจากการขายสินทรัพย์เข้า REIT, เราคาดว่ากำไร 2017 จะเติบโตเด่น +45% y-y จากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และมี Sentiment บวกในไตรมาส 1/17 จากการนำธุรกิจไฟฟ้า (WHAUP) เข้าตลาด

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.) คาด SET ภาคเช้ายังดีเนื่องจากได้โมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องจากเมื่อวานแต่บ่ายอาจผันผวน และมีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนอาจจะเทขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในคืนวันนี้ ซึ่งตลาดส่วนใหญ่รอดูท่าทีเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจว่าจะมีความแข็งกร้าวหรือเข้มงวดเหมือนกับที่เคยหาเสียงไว้หรือไม่

หุ้นในกลุ่มพลังงานจะยังกดดันตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 กลุ่มธนาคาร น่าจะพักตัวเพื่อรอดูการประกาศผลประกอบการของ TISCO ในวันนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มอสังหาฯที่อาจจะผิดหวังที่ภาครัฐยังไม่มีมาตรการกระตุ้นรอบใหม่ แต่ในระยะกลางถึงยาวยังดี เนื่องจากกลุ่มอสังหาฯยังมี Valuation ที่ไม่แพงโดยทั้งกลุ่มซื้อขายบน PE เฉลี่ยต่ำกว่า 10 เท่า ขณะที่หลายตัวจ่าย Dividend ให้ผลตอบแทนต่อปีสูงเกิน 5% อาทิ LH LPN PSH QH และ SPALI

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : SAT (ซื้อ/เป้า 16.50 บาท) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แนวโน้มยอดขายในประเทศสูงขึ้นหลังจากโครงการรถคันแรกหมดอายุหนุนความต้องการเพื่อเปลี่ยนรถใหม่เพิ่มขึ้น

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.) ว่า ประเด็นข่าวเช้านี้ World Bank คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ขยายตัว 2.7% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 59 ที่ 2.3% และคาดปี 61 จะเติบโตที่ระดับ 2.9 % เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่และประเทศอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น เย็นนี้ติดตามการแถลงต่อสื่อของนายทรัมป์

กลยุทธ์การลงทุน วางจุดสังเกตุหากดัชนีสามารถผ่านแนวต้าน 1,575 จุดได้ ดัชนียังอยู่ในทิศทาง Sideway Up ขึ้นไปที่แนวต้านถัดไปที่ 1,600 จุด แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นหากราคาปรับฐานลงมาตามราคาน้ำมัน, เก็งกำไรระยะสั้น STA , TRUBB (Supply ยางพาราขาดในช่วงน้ำท่วม) , TASCO (+ คาดเส้นทางเสียหายจากน้าท่วม มูลค่าราว 1 พันล้านบาท)