SET บ่ายผันผวน – แนะทยอยขายทำกำไรโบรกฯ ชู IRPC เป้า 7 บ. ปัจจัยหนุนเพียบ
SET บ่ายผันผวน - แนะทยอยขายทำกำไร หาจังหวะเข้าซื้อย่อตัว แนวต้าน 1,580-1,585 จุด แนวรับ 1,570 และ 1,560 จุด โบรกฯ แนะ "ซื้อ" IRPC ชูเป้า 7 บ. แนวโน้มผลการดำเนินงาน Q4/59 โตกระฉูด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (11 ม.ค.) ผันผวนอิงทางบวก เป็นไปตาม sentiment ตลาดภูมิภาค แม้บาทอ่อนเล็กน้อยแต่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิ จับตาความต่อเนื่องหลังดัชนีปรับตัวสูงขึ้น ส่วนแรงขายสถาบันไม่มาก ทิศทางช่วงบ่ายโอกาสผันผวนสูงขึ้น แนะทยอยขายทำกำไรหาจังหวะเข้าซื้อย่อตัว แนวต้าน 1,580-1,585 จุด แนวรับ 1,570 และ 1,560 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้า ผันผวนอิงทางบวก เป็นไปตาม sentiment ตลาดภูมิภาค ถึงแม้ค่าเงินบาทอ่อนเล็กน้อย แต่ก็ไม่กระทบกับเรามาก เพราะนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิ แต่คงต้องจับตาความต่อเนื่องในระยะต่อไปหลังดัชนีปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนแรงขายสถาบันก็ไม่มาก
ทิศทางช่วงบ่าย มองตลาดฯจะมีความผันผวนสูงขึ้น ช่วงบวกเป็นโอกาสที่ดีในการทยอยขายทำกำไรออกมาก่อนแล้วค่อยหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อดัชนีย่อตัวลงอีกครั้ง ไม่แนะนำให้ไล่ราคา มองช่วงบ่ายคงจะไปไม่ไกลกว่านี้มากนัก เพราะตลาดก็ปรับขึ้นมามากแล้ว ให้แนวต้าน 1,580-1,585 จุด แนวรับ 1,570 และ 1,560 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.) SET มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อไปที่แนวต้าน Downtrend ตั้งแต่ปี 2013 บริเวณ 1,585 +/- จุด โดยนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในสถานะ Risk-on จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก…ขณะที่การบริโภคในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปีนี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุน ยอดใช้จ่ายโฆษณาเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะใน Digital TV และสื่อโฆษณานอกบ้าน ล่าสุดเม็ดเงินใช้จ่านโฆษณา Digital TV เดือน ธ.ค. +14.84% และสื่อโฆษณานอกบ้าน +48.7% เป็นปัจจัยบวกต่อ WORK (TP 52 บาท และแนวต้าน 47.0) RS (TP 8 บาท) และ PLANB (TP 6.8 บาท และแนวต้าน 6.05 บาท)
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” IRPC พื้นฐาน 7.00 บาท จาก 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 มีแนวโน้มออกมาแข็งแกร่งจากค่าการกลั่น (GRM) ที่อยู่ในระดับสูง และรับรู้ผลบวกจากโครงการ UHV เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก คาดกำไรปี 2559 เติบโต +122% ที่ 1.05 หมื่นล้านบาท 2) แนวโน้มค่าการกลั่น และส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรกับวัตถุดิบอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในปี 2560 จาก Demand ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า Supply รวมไปถึงการเพิ่มกำลังการผลิต Polypropylene กลางปี สนับสนุนการเติบโตกำไรต่อเนื่อง +17% ปีนี้เป็น 1.23 หมื่นล้านบาท 3) Valuation ถูก ด้วย PE 8.7x และปันผล 4.4-5.7% ขณะที่ทางเทคนิคทำ Breakout แนวต้านระยะสัปดาห์เป็นครั้งแรก เป้าหมายระยะสั้นที่ 5.30 บาท และระยะสัปดาห์ที่ 6.0 บาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,356,59 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,044,93 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,011,15 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 986,97 ล้านบาท ปิดที่ 20.20 บาท ลดลง 0.10 บาท
STA มูลค่าการซื้อขาย 879,88 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท