SET บ่ายแกว่งไซด์เวย์ – อาจเจอแรงขายทำกำไรโบรกฯ แนะ “ซื้อ” WHA เป้า 3.80 บ. มีปัจจัยบวก

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (12 ม.ค.) แกว่งไซด์เวย์ในกรอบบวกแคบ ๆ ตามตลาดภูมิภาคที่เช้านี้ส่วนใหญ่บวกเฉลี่ยราว 0.2% หลังการแถลงของ”ทรัมป์”วานนี้ ได้มองบวกต่อการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ ทำให้มีแรงขายดอลลาร์สหรัฐฯออกมา และเป็น Sentiment บวกต่อตลาดเอเชีย แต่ระหว่างทางก็เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง บ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยอาจเจอแรงขายทำกำไรออกมาสลับบ้าง แต่การย่อตัวเพื่อตั้งรับ พร้อมให้แนวรับ ,564-1,558 แนวต้าน 1,580-1,582 จุด

 

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบบวกแคบ ๆ ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเฉลี่ยราว 0.2% ภายหลังจากการแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐ เมื่อวานนี้ ได้มองบวกต่อนโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของสหรัฐฯ และยังจะมีนโยบายด้านภาษีด้วย ทำให้มีแรงขายเงินดอลาร์สหรัฐฯออกมา และได้เป็น Sentiment บวกต่อตลาดเอเชีย อย่างไรกีดี ตลาดฯก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ และคงจะไม่ปรับตัวขึ้นเร็ว โดยคงจะมีแรงขายทำกำไรออกมาสลับบ้าง แต่การย่อตัวของดัชนีฯไม่น่ากังวล เพราะมองเป็นการย่อตัวเพื่อตั้งรับ พร้อมให้แนวรับ 1,564-1,558 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,582 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ม.ค.) SET ปรับสูงขึ้นในช่วงเปิดตลาดตามการปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้น Dow Jones แต่ยังมีแรงขายใกล้แนวต้าน 1,585 จุด ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” Growth plays อย่าง STA PLANB WHA IRPC และ WORK ต่อเนื่องจากรายงาน Early Bird เช้านี้

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” WHA ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 3.80 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงาน 4Q16 จะเติบโตแข็งแกร่ง จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน REIT 1.2 หมื่นล้านบาท 2) นำธุรกิจไฟฟ้า WHAUP เข้า IPO ใน 1Q17 ซึ่งให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมในการจองซื้อหุ้น (Preemptive right) WHAUP บางส่วน เป็น Sentiment บวกต่อราคาหุ้น WHA 3) ภาระดอกเบี้ยที่ลดลง ยอดขายที่ดินเพิ่มขึ้น และกำลังการผลิตไฟฟ้า WHAUP ที่เพิ่มขึ้น หนุนกำไรเติบโตแกร่ง 45% ปีนี้ ด้วย PE 14.5x ปีนี้ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 22x มาก และคาดว่าจะเริ่มจ่ายปันผลเป็นครั้งแรกในปี 2017 เช่นกัน ขณะที่ 4) ทางเทคนิคราคาหุ้น Breakout Downtrend ไปแล้ว เป้าหมายระยะสั้นที่ 3.32-3.34 บาท

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

IRPC  มูลค่าการซื้อขาย 1,696.01 ล้านบาท ปิดที่   5.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

TASCO  มูลค่าการซื้อขาย 1,045.38 ล้านบาท ปิดที่  23.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย   882.45 ล้านบาท ปิดที่  61.25 บาท ลดลง  0.25 บาท

WHA  มูลค่าการซื้อขาย   770.17 ล้านบาท ปิดที่   3.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท

IVL  มูลค่าการซื้อขาย   763.16 ล้านบาท ปิดที่  36.00 บาท ลดลง  0.25 บาท