SET บ่ายแกว่งแคบ วอลุ่มเทรดบางโบรกฯ แนะ “ซื้อ” WORK เป้า 52 บ.
SET บ่ายแกว่งแคบ - วอลุ่มเทรดบาง รอติดตามปัจจัยสัปดาห์หน้าทั้งกลุ่มแบงก์ประกาศงบฯ และการแถลงนโยบาย"โดนัลด์ ทรัมป์"เข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐ ให้แนวต้าน 1,570-1,575 แนวรับ 1,560 จุด โบรกฯ แนะ “ซื้อ” WORK เป้า 52 บ. ปัจจัยหนุนเพียบ
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (13 ม.ค.) แกว่งแคบไร้ปัจจัยใหม่ รอติดตามปัจจัยสัปดาห์หน้าทั้งกลุ่มแบงก์ประกาศงบฯ และการแถลงนโยบาย”โดนัลด์ ทรัมป์”เข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐ ส่วนตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งทั้งบวก-ลบ บ่ายนี้ตลาดฯน่าจะยังแกว่งแคบ-วอลุ่มเทรดบาง ให้แนวต้าน 1,570-1,575 แนวรับ 1,560 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบ ยังคงผันผวนในลักษณะเดียวกับช่วง 2 วันที่ผ่านมาที่ดัชนีฯเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ มองว่าตลาดฯยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนให้ปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่มีปัจจัยลบเช่นกัน ต้องรอปัจจัยในสัปดาห์หน้าทั้งการประกาศผลการดำเนินงานปี 58 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และการแถลงนโยบายฯของนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่คาดหวังต่อความชัดเจนของนโยบายฯ
ทั้งนี้ การลงทุนในระยะสั้น แนะนำนักลงทุนระมัดระวังการเทรด หลังจากดัชนีฯปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว และยังไม่เห็นปัจจัยเชิงบวกที่จะทำให้ปรับตัวขึ้นไปต่อได้ จึงต้องระวังการย่อตัว โดยเฉพาะเมื่อดัชนีฯอยู่ที่ระดับ 1,550-1,555 จุด
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย ตลาดฯน่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบจากวอลุ่มเทรดเบาบาง ให้แนวต้าน 1,570-1,575 จุด แนวรับ 1,560 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ม.ค.) SET เคลื่อนไหวแคบ รอการเข้ารับตำแหน่งทรัมป์ สัปดาห์หน้า แม้ SET ลดความร้อนแรงลงจากช่วงต้นสัปดาห์ แต่ Momentum ยังไม่เสียหายโดยสามารถยืนได้เหนือแนวรับที่ 1,562 จุด ต่อไป โดยมองว่าตลาดรอถ้อยแถลงทรัมป์ หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ในวันที่ 20 ม.ค.นี้
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” WORK ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 52 บาท แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 จะไม่น่าประทับใจมากนัก แต่ไม่น่าจะสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน ขณะที่คาดว่าจะเห็นการ Turnaround ของกำไรในปีนี้ ด้วยการเติบโตสูง 268% ที่ 502 ล้านบาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) เริ่มเห็นการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาผ่าน Digital TV ตั้งแต่เดือน ธ.ค.แล้ว และคาดว่าจะมีความต่อเนื่องใน 1Q17 โดยปัจจุบัน WORK มีส่วนแบ่งตลาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ด้วยผู้ชมประมาณ 6 แสนคน 2) การปรับขึ้นค่าโฆษณา 20% ในปีนี้ เป็น 60000 บาท/นาที และอัตราการใช้เวลาโฆษณาที่ดีขึ้น จะเป็นสนับสนุนกำไรโตดีตั้งแต่ไตรมาส 1/60
และ 3) มีโอกาศทำรายได้ผ่านสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีการถ่ายทอดผ่านสื่อออนไลน์อย่าง Youtube, Facebook และ Line ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากส่วนนี้ประมาณ 50 ล้านบาทในปี 2016 และเพิ่มขึ้น 100 ล้านบาทในปี 2017 ขณะที่ทางเทคนิคมีแนวโน้มปรับขึ้นไปที่แนวต้าน 47และ ATH49.5 บาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 999.25 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 822.35 ล้านบาท ปิดที่ 8.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 619.08 ล้านบาท ปิดที่ 383.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 553.18 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 517.18 ล้านบาท ปิดที่ 392.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง