จัดทัพ 25 หุ้นกำไรโต-ปันผลสูง เลือกเก็บช่วงดัชนีอ่อนตัว

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง โดย Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกยังเป็นปัจจัยลบหลัก ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงรอความชัดเจนแผน Brexit และการประกาศนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การอ่อนตัวของดัชนีถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการดีและปันผลสูง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาททรงตัวที่ 35.41 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง โดย Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกยังเป็นปัจจัยลบหลัก ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงรอความชัดเจนแผน Brexit และการประกาศนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การอ่อนตัวของดัชนีถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการดีและปันผลสูง หุ้นเด่นเลือก IRPC-BCP-SPRC-PLANB-WORK-SUSCO-BJC-AOT-BIG-BEAUTY-CPALL-HANA-IVL-LH-PTTGC-TISCO-TPCH-TKN-AMC-PAPTMT-KSL-TASCO-RS และ SIRI

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ม.ค.) มีความกังวลต่อการ “ผันผวน” ที่เพิ่มขึ้นของ SET สัปดาห์นี้ ประเมินแนวรับที่ 1,568 จุด หรือถัดไปที่ 1,548 จุด (อิงเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน) เนื่องจาก 1) earnings yield gap ปัจจุบันที่ 3.9% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 4% มอง upside จากปัจจุบัน “จำกัด” ที่ 1,585 จุด 2) Dow Jones ปรับสูงขึ้นแล้วเกือบ 11% หลังทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาษี ขณะที่หลังจากวันที่ 20 ม.ค.นี้ อาจเริ่มเห็น implementation risk ของการนำนโยบายมาปฎิบัติจริง

แนะนำนักลงทุนกำหนด “Trailing stop” ที่ 1,568 จุด ในการลดพอร์ต เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของ SET ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ขณะที่ยังชอบหุ้นเติบโตสูง อย่าง IRPC WHA PLANB WORK และ SUSCO รวมไปถึง BJC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 62 บาท จาก 1) เป็น Growth plays ที่ราคาหุ้นยัง laggard ตลาดมาก 2) กำไรปี 2017 จะเติบโตสูง 120% จากการับรู้รายได้ BIGC เต็มปี, Synergy กับ BIGC เพิ่มขึ้น, หนี้ลดลง ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” หุ้นตาม The Revision Port ที่ได้ผลตอบแทนปีที่แล้วสูงถึง +51% ในปีที่แล้ว อย่าง KSL TASCO RS และ SIRI

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ม.ค.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนและมีโอกาสลดลง Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกยังเป็นปัจจัยลบหลัก โดยวานนี้นักลงททุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ Fund Flow ไหลออกจากทุกตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 พร้อมกับแรงขายที่หนาแน่นขึ้น ขณะเดียวกันคาดว่านักลงทุนจะยังชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่นาง เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะประกาศแผน Brexit ในเย็นวันนี้ รวมไปถึงการขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และการประกาศนโยบายเศรษฐกิจของ นายโดนัล ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.17

อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวของดัชนีถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมโดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบ 2016 ออกมาดีและผลประกอบการปีนี้ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง อาทิ AOT, BIG, BEAUTY, CPALL, HANA, IVL, LH, PTTGC, TISCO, TPCH และ TKN รวมไปถึงการเก็บสะสมหุ้นที่จ่ายปันผลสูงและส่วนใหญ่จะจ่ายปันผลปีละ 1 ครั้งอาทิ AMC PAP และ TMT

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Buy on Weekness

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : IVL (ซื้อ/เป้า 38.00 บาท) โดยมีปัจจัยหนุน คือ 1) ราคาหุ้นยังไม่สะท้อน Capacity ที่เพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านตันในปี 2010 เป็น 10 ล้านตันในปัจจุบัน 2) คาดได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของโดนัล ทรัมป์ เนื่องจาก 30% ของ EBITDA มาจากธุรกิจในสหรัฐ

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ม.ค.) ว่า ภาวะการซื้อขายวันนี้ยังต้องติดตามถ้อยแถลงของนายกฯอังกฤษเกี่ยวกับแผนการออกจากสหภาพยุโรป ว่าจะส่งผลให้ตลาดเงินตลาดทุนผันผวนเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ โดยในวันที่ 19 ม.ค. การประชุม ECB คาดคงนโยบายการเงิน และวันศุกร์นายทรัมป์ขึ้นรับตำแหน่ง

ทิศทางตลาดหุ้นไทยยังรอการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ซึ่งคาดอยู่ในทิศทางทรงตัว กลยุทธการลงทุน ประเมินแนวรับสำคัญดัชนี SET ที่ 1,560 จุด กรณียืนได้ทิศทางตลาดยังอยู่ภาวะ Sideway Up โดยมีแนวต้าน 1,580 – 1,590 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น IRPC, BCP, SPRC (+ ค่าการกลั่นสิงค์โปร์ยืนเหนือระดับ 7 ดอลลาร์/บาร์เรล)

Back to top button