SET ผันผวน เน้นเก็บ 18 หุ้นกำไรโต-ปันผลแจ่ม
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ไซด์เวย์ในกรอบ ในระยะสั้นความผันผวนมีแนมโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดจับตาประเด็นการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ และการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของนาย โดนัล ทรัมป์ การลงทุนยังแนะนำทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการณ์ปี 59 ออกมาดี และให้ปันผลสูงเป็นหลัก
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.26 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงที่แข็งกร้าวของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ของอังกฤษ เกี่ยวกับแผนการของอังกฤษในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐก่อนหน้าที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค.นี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ไซด์เวย์ในกรอบ ในระยะสั้นความผันผวนมีแนมโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดจับตาประเด็นการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ และการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของนาย โดนัล ทรัมป์ การลงทุนยังแนะนำทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการณ์ปี 59 ออกมาดี และให้ปันผลสูงเป็นหลัก
หุ้นเด่นเลือก KBANK-HMPRO-AOT-BIG-BEAUTY-CPALL-HANA-IVL-LH-PTTGC-TISCO-TPCH-TKN-AMC-PAP-TSR-TMT และ IRPC
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ม.ค.) ว่า SET ปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับแรกที่ 1,568 จุดแล้ววานนี้ ขณะที่มีแนวรับถัดไปที่ 1,550 จุด (อิงเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน) ทั้งนี้ยังกังวลต่อความ “ผันผวน” ที่เพิ่มขึ้นของ SET สัปดาห์นี้ เนื่องจาก 1) Valuation ในเชิง Earnings yield gap ที่ต่ำเพียง 3.9% (ยิ่งต่ำยิ่งแสดงให้เห็นว่าการลงทุนในหุ้นไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับพันธบัตร) และ 2) Implementation Risk ของการนำนโยบายของทรัมป์ไปใช้ หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.นี้
การที่ SET หลุด Trailing stop ที่ 1,568 จุด เมื่อวานนี้ ทำให้นักลงทุนควร “ลดพอร์ต” เพื่อลดความเสี่ยงจากความ “ผันผวน” ที่เพิ่มขึ้นช่วงนี้ แนะนำ “ซื้อ” IRPC พื้นฐาน 7.00 บาท จาก 1) กำไรไตรมาส 4/16 จะออกมาดีจากค่าการกลั่นสูง และรับรู้ UHV เปลี่ยนน้ำมันเตาเป็น Propylene เต็มไตรมาส ขณะที่ Propylene Spread ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา 2) เพิ่มกำลังการผลิต Polypropylene อีก 300K/ปี, รับรู้ผลบวกจากการ Upgrade โรงกลั่นเต็มปี หนุนกำไรเติบโต 17% มอง PE ต่ำ 8.8 เท่า และ 3) มีภูมิตต้านทางต่อความผันผวนตลาดระยะสั้น จาก Dividend 4.4% และเพิ่มเป็น 5.7% ปีนี้
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ม.ค.) มีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดในวันนี้โดยคาด SET จะ Side way ในกรอบ+/-5 จุด แม้ว่า Brexit จะไม่ได้รุนแรงอย่างที่ตลาดกังวลและยังมีเวลาให้อังกฤษและประเทศสมาชิกมีเวลาในการปรับตัวถึง 2 ปี แต่ความไม่แน่นอนต่อการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของนาย โดนัล ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ม.ค.17 จะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด และทำให้นักลงทุนเลือกที่จะรอหรือลดความเสี่ยงมากกว่าที่จะ Take Position ในการเข้าซื้อ และในช่วงที่ตลาด Side way หรืออ่อนตัวลง
ยังแนะนำให้นักลงทุน ทยอยสะสมหุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบ 2016 ออกมาดีและผลประกอบการปีนี้ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง อาทิ AOT, BIG, BEAUTY, CPALL, HANA, IVL, LH, PTTGC, TISCO, TPCH และ TKN รวมไปถึงการเก็บสะสมหุ้นที่จ่ายปันผลสูงและส่วนใหญ่จะจ่ายปันผลปีละ 1 ครั้งอาทิ AMC PAP และ TMT
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Buy on weekness
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : TSR (ซื้อ/เป้า 6.50 บาท) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดในปีที่ผ่านมา ขณะที่ใหม่ทำยอดขายดีเกินคาดโดยเฉพาะการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านกลยุทธ์ “ผ่อนสบาย” กับ TSR
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ม.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังได้แรงหนุนจากทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่า และการรายงานผลประกอบการณ์ KBANK ปี 59 ยังดีกว่าคาดราว 4% เป็นปัจจัยหนุนตลาด
กลยุทธ์การลงทุน ยังวางแนวรับสำคัญที่ 1,560 จุด กรณียืนได้ทิศทางดัชนี SET ยัง Sideway Up โดยมีแนวต้าน 1,580 จุด แนะนำซื้อลงทุน KBANK (+ ผลประกอบการปี 59 ดีกว่าคาดการณ์ 4% อยู่ระหว่างประเมิน FV ใหม่) และซื้อ HMPRO (Consensus Value 11.50 บาท คาดได้รับผลบวกจากมาตรการลดภาษีจากค่าใช้จ่ายซ่อมแซมน้ำท่วมภาคใต้)