SET บ่ายแกว่งแคบ – ติดตามนโยบายทรัมป์พรุ่งนี้โบรกฯ แนะ “ซื้อ” STA เป้า 30 บ. ปัจจัยหนุนเพียบ

SET บ่ายแกว่งแคบ – ติดตามนโยบายทรัมป์ในวันพรุ่งนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,520 ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,570-1,580 จุด โบรกฯ แนะ “ซื้อ” STA เป้า 30 บ. ปัจจัยหนุนเพียบ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (19 ม.ค.)แกว่งตัวในทิศทางที่อ่อนตัวลงรับแรงขายกลุ่มพลังงานที่อ่อนลงตามราคาน้ำมัน รวมทั้ง take profit กลุ่มแบงก์หลังขึ้นไปก่อนหน้านี้และปี 60 ยังมีข้อจำกัดการเติบโต รวมทั้งต่างชาติกลับมาขายสุทธิวานนี้กว่า 3 พันล้านกดดัน Sentiment ตลาดฯ ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งบวก-ลบรอติดตามนโยบาย”ทรัมป์”วันพรุ่งนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอน บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งแคบ ให้แนวรับ 1,520 ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,570-1,580 จุด

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในทิศทางที่อ่อนตัวลง คาดว่าเป็นผลจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงจากมองว่าสหรัฐฯอาจผลิตน้ำมันเพิ่ม จึงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่หุ้นในกลุ่มแบงก์ก็เจอ take profit หลังจากปรับตัวขึ้นไปในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว และธุรกิจแบงก์ในปีนี้ยังมีข้อจำกัดการเติบโต ส่วนนักลงทุนต่างชาติก็กลับมาขายสุทธิเมื่อวานนี้กว่า 3 พันล้านบาท ทำให้ไปกดดัน Sentiment ตลาดฯ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ต่างรอติดตามการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันพรุ่งนี้ว่าจะเดินหน้านโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้อย่างไร ซึ่งก็ยังมีความไม่แน่นอน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,520 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,570-1,580 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ม.ค.) SET ปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตลาด นำโดยหุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคาร และค้าปลีก ประเมินแนวรับสำคัญที่ 1,550 จุด ยังมองควมเสี่ยงระยะสั้นจาก 1) Implementation risk ของการนำนโยบายทรัมป์ มาปฎิบัติจริงตั้งแต่ 20 ม.ค.นี้ และ 2) Bond yield กลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง หลัง Janet Yellen มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวดีใกล้เคียงกับเป้าหมายของ Fed และเป็นความเสี่ยงของ Earnings yield gap ปรับลดลงอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” STA ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 30 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ราคายางที่ปรับสูงขึ้นเนื่องจากภาวะน้ำท่วมภาคใต้ส่งผลให้ supply ตึงตัวมากขึ้นระยะสั้น ขณะที่ภาพระยะกลาง Demand และ Supply ที่สมดุลมากขึ้น และสต็อกยางที่ลดลงเป็นปัจจัยบวกต่อราคายาง 2) ผลการดำเนินงาน 4Q16 มีแนวโน้มออกมาดี ส่งผลกำไรทั้งปีออกมาที่ 518 ล้านบาทพลิกจากขาดทุนในปี 2015 ขณะที่คาดการณ์กำไรปี 2017 ได้รับผลดีจากการปรับสูงขึ้นของราคายางเต็มปีหนุนกำไรโต 174% ที่ 1.4 พันล้านบาท ทางเทคนิคมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 26.50 ถัดไปที่ 28.00 บาท

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 3,047.78 ล้านบาท ปิดที่  59.25 บาท ลดลง  1.00 บาท

IVL    มูลค่าการซื้อขาย 1,066.50 ล้านบาท ปิดที่  34.50 บาท ลดลง  0.50 บาท

DTAC   มูลค่าการซื้อขาย   745.70 ล้านบาท ปิดที่  44.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

IRPC   มูลค่าการซื้อขาย   688.59 ล้านบาท ปิดที่   5.15 บาท ลดลง  0.05 บาท         

GUNKUL  มูลค่าการซื้อขาย   603.08 ล้านบาท ปิดที่   6.40 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

Back to top button