เปิดเมนู 10 บจ.รสเด็ด หุ้นพลังงานดัน SET ฟื้นตัว

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังผันผวนต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามยังมีแนวโน้มฟื้นตัวจาก Fund Flow ที่ไหลเข้า ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า รวมถึงการฟื้นตัวของหุ้นพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นแรง ขณะที่การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มที่ผลประกอบการไตรมาส 4/59 และ ปี 59 ออกมาดีเป็นหลัก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.27 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยการนำของตลาดหุ้นโตเกียวที่ร่วงลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการค้าทั่วโลก หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ได้แสดงจุดยืนในการปกป้องการค้าของสหรัฐ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังผันผวนต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามยังมีแนวโน้มฟื้นตัวจาก Fund Flow ที่ไหลเข้า ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า รวมถึงการฟื้นตัวของหุ้นพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นแรง ขณะที่การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มที่ผลประกอบการไตรมาส 4/59 และ ปี 59 ออกมาดีเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก KTB-KKP-ESSO-LPH-BCH-PTT-PTTEP-PTTGC-IRPC และ BANPU

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ม.ค.) มองการฟื้นตัวของ SET ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็น Technical Rebound ที่แนวรับ 1,550 +/- จุด ขณะที่ยังมอง Upside ระยะสั้นจำกัดเหมือนเดิม จาก 1) แม้ตลาดหุ้น Dow Jones +0.48% เมื่อคืนวันศุกร์ แต่ยังมองความเสี่ยงจากการนำนโยบายเศรษฐกิจทรัมป์ไปปฎิบัติจริง 2) Valuation ของ SET ที่ “ไม่ถูก” และ 3) การประชุม FOMC วันที่ 1 ก.พ.นี้ เป็นความเสี่ยงต่อการเร่งตัวขึ้นของ Bond yield อีกครั้ง

กำหนด Trailing stop ที่ 1,552 จุด เพื่อจำกัดความเสี่ยงจากความ “ผันผวน” ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/16 แข็งแกร่งมีแนวโน้ม Outperform ตลาด และแนะนำ “ซื้อ”: 1) KTB (ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท) กำรไตรมาส 4/16 ดีกว่าคาด PE ต่ำสุดในกลุ่มที่ 8 เท่า และปันผล 4.7%

2) KKP (ราคาเป้าหมาย 63.00 บาท) กำไรไตรมาส 4/16 +67% จากไตรมาสก่อน เด่นสุดในกลุ่ม ปันผลสูง 7.7-8% และ 3) ESSO (ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท) ค่าการกลั่นสูงในไตรมาส 4/16, ราคาหุ้นยังต่ำกว่า NAV มาก และมีสัญญาณฟื้นตัวจากแนวรับ 11.50 บาท มีแนวต้านระยะสั้นที่ 12.50/13.00 บาท

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ม.ค.) คาด SET ยังเคลื่อนไหวผันผวนและมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยได้แรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลเข้า ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า รวมถึงการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นแรง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการปรับขึ้นของดัชนีจะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากตลาดยังคลุมเคลื่อนต่อนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัล ทรัมป์ ซึ่งยังไม่มีการแถลงรายละเอียดที่ชัดเจน เรายังแนะนำนักลงทุนให้เข้าเก็บสะสมหุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบ 2016 ออกมาดีและผลประกอบการปีนี้ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง อาทิ AOT, BIG, BEAUTY, CPALL, HANA, IVL, LH, PTTGC, TISCO, TPCH TKN และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและราคายัง Laggard เมื่อเทียบกับตลาดรวมอาทิ กลุ่มโรงพยาบาล เก็งกำไรประกันสังคมเตรียมพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าเหมาจ่ายในการรักษาพยาบาลซึ่งจะส่งผลบวกต่อผู้ประกอบการโรงพยาบาลที่มีฐานลูกค้าเป็นผู้เอาประกันสังคม อาทิ LPH BCH CHG และ VIBHA และสุดท้ายกลุ่มท่องเที่ยว รมว.ท่องเที่ยวเตรียมเสนอต่ออายุยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าอีก 3 เดือนเป็นบวกต่อ AOT, ERW, CENTEL และ MINT

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: Selective Buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : LPH (ซื้อ/เป้า 10.00 บาท), BCH (ซื้อ/เป้า 17.00 บาท) คาดเป็น 2 โรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์มากที่สุดหากประกันสังคมปรับขึ้นอัตราค่าเหมาจ่ายค่าบริการทางการแพทย์

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ม.ค.) ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวตามภูมิภาคหลังจีนรายงาน GDP ไตรมาส 4/59 ขยายตัวดีกว่าคาดอยู่ที่ระดับ 6.8 % เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ขณะที่กลุ่มสถาบันการเงินไทยรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/59 ดีกว่าคาดการณ์ Consensus +1.26% ยังเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาด

ภาวะการซื้อขายหุ้นไทยเช้านี้คาดได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน โดย Crude Futures ฟื้นตัวอยู่ที่ 53.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกได้แถลงตัวเลขลดกำลังการผลิตน้ำมันแล้ว 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกหนุนผลประกอบการในกลุ่มพลังานและปิโตรเคมี

กลยุทธ์การลงทุน ประเมินทิศทางดัชนี SET จะกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด แนะนำซื้อ PTT , PTTEP , PTTGC . IRPC และ BANPU

Back to top button