SET ปรับขึ้นต่อ เตรียมวัด 1,600 จุดจับตา 10 หุ้นร้อน เก็งกำไรงบโตเด่น

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.18 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.23 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืน ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับขึ้นต่อหลังสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ 1,575 จุด และทำราคาปิดสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี หากดัชนี SET สามารถผ่านแนวต้าน 1,580 จุด มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,600 จุด อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีที่เข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด อาจจูงใจให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไร

การลงทุนเลือกเก็งกำไรกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/59 และ ปี 59 ออกมาดี หรือหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกหนุน หุ้นเด่นเลือก ESSO-AOT-MAJOR-SPALI-PTT-PTTGC-IRPC-IVL-UVAN และ UPOIC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ม.ค.) SET กำลังเข้าสู่ช่วง Bull Season ในเดือน ก.พ. – มี.ค. ซึ่งจากสถิติในอดีต 10 ปีที่ผ่านมามีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็น “บวก” สูง 80 – 90% (8 ใน 10 ปีที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทนเป็น “บวก” ในเดือน ก.พ. – มี.ค. และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 2.8 – 4% ประกอบกับ 1) Consensus เริ่มปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2017 ขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร และ 2) การลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC หนุนราคาน้ำมัน และหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้ SET มีแนวโน้ม extended rally ได้ถึง 1,622-1,650 จุด

แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/16 ออกมาดี 1) โรงกลั่น+ปิโตรฯ : แนะนำ “ซื้อ” IRPC (ค่าการกลั่นสูง รับรู้ UHV เต็มไตรมาส ปันผลปีละครั้ง 4.4%) และ ESSO (ค่าการกลั่นสูง, ค่าการตลาดสูงหนุนกำไรธุรกิจปั๊มน้ำมัน, และราคาหุ้นต่ำ NAV มาก)

2) “ซื้อ” AOT : นักท่องเที่ยวจีนเริ่มส่งสัญญาณ “ฟื้นตัว” ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. ขณะที่การประชุมผู้ถือหุ้น 27 ม.ค.เพื่อ split par หนุน Sentiment ระยะสั้น แนวต้าน 402/408/420 บาท

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ม.ค.) มีมุมมองเป็นบวก คาด SET มีโอกาสปรับขึ้น โดยได้โมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องจากเมื่อวานหลังดัชนีสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,575 จุดขึ้นมาได้ และยังทำราคาปิดสูงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะวันนี้ Sentiment โดยรวมยังดี ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ยังเปิดตลาดในแดนบวก ค่าเงินบาทยังแข็งค่า ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเราคาดว่าการปรับขึ้นของดัชนีจะเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากดัชนีที่เข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด จะจูงใจให้นักลงทุนบางส่วนเทขายทำกำไร

กลยุทธ์การลงทุนในระยะนี้ยังเป็น Selective Buy และแนะนำสะสมหุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบ 2016 ออกมาดีและผลประกอบการปีนี้ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง อาทิ AOT, BIG, BEAUTY, CPALL, HANA, IVL, LH, PTTGC, TISCO, TPCH, TKN และเลือกหุ้นที่ Valuation ยังไม่แพงและมีปันผลสูงเช่นกลุ่มอสังหาฯ (LH SPALI) ส่วนกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัววันนี้คือกลุ่มนิคมฯ AMATA ROJNA WHA รับผลบวก ครม.อนุมัติขยายเวลาส่งเสริมการลงทุนให้กับภาคเอกชน และกลุ่มสายส่งไฟฟ้า (DEMCO SCI) ได้ผลบวก ครม.อนุมัติเงินลงทุนในระบบสายส่งไฟฟ้าภาคใต้มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : MAJOR (ซื้อ/เป้า 36.00 บาท) ปีนี้จะเป็นปีที่มีหนังฟอร์มใหญ่เข้าฉายมากที่สุดในรอบ 3 ปี SPALI (ซื้อ/เป้า 29.00 บาท) กำไรสุทธิมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 ปีจาก Backlog ในมือที่สูงกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปีนี้มีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 29 โครงการมูลค่าประมาณ 3.7 หมื่นล้านบาทน่าจะสร้างยอดขายรองรับการเติบโตของรายได้ในอีก 2 ปีถัดไป

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ม.ค.) ตัวเลขส่งออก ธ.ค. ยังขยายตัวที่ 6.2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่งผลให้ทั้งปี 59 ส่งออกกลับมาเป็น +0.45 % จากปีก่อน ภาวะการซื้อขายวันนี้คาดยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่คาดผลประกอบการยังอยู่ในทิศทางบวก ประกอบกับทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่ายังช่วยหนุนภาวะให้ Fund Flow ยังไม่ไหลออก

กลยุทธ์การลงทุน หากดัชนี SET สามารถผ่านแนวต้าน 1,580 จุด ไปได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,600 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรเป็นรายหลักทรัพย์ เช่น PTT, PTTGC, IRPC, IVL และ UVAN, UPOIC ( + ราคาน้ำมันปาล์มวานนี้ +1.45 % )