SET บ่ายแกว่งแคบ-ติดตามประชุมเฟดโบรกฯ แนะสอย 7 หุ้นเด่น มีปัจจัยหนุน
SET บ่ายแกว่งแคบ-วอลุ่มบาง ติดตามประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,580 แนวต้าน 1,600 จุด โบรกฯ แนะสอย 7 หุ้นเด่น มีปัจจัยหนุน นำโดย IRPC, BJC, WHA, SAWAD, PLANB, WORK และ SUSCO
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (30 ม.ค.) เงียบหลังหลายตลาดในภูมิภาคยังปิดทำการเทศกาลตรุษจีนส่งผลวอลุ่มเทรดน้อย มีแค่เล่นเก็งหุ้น Soft Commodity และงบฯ บางบจ.ที่คาดโตดี ด้านตลาดภูมิภาคที่เปิดเทรดวันนี้ส่วนใหญ่บวกเล็กน้อย-ดาวโจน์ฟิวเจอร์สติดลบเหตุวิตกนโยบาย”ทรัมป์” แนะติดตามประชุมเฟด 31 ม.ค.-1 ก.พ.นี้รอฟังถ้อยแถลง บ่ายนี้คาดตลาดฯยังแกว่งแคบ-วอลุ่มบาง ให้แนวรับ 1,580 แนวต้าน 1,600 จุด
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เงียบ ๆ เนื่องจากยังมีหลายตลาดในภูมิภาคเอเชียปิดทำการช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ตลาดบ้านเรามีวอลุ่มเทรดน้อย มีเพียงการเล่นหุ้น Soft Commodity และเล่นเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดเบียน เช่น MTLS ที่คาดเติบโตได้ดี ส่วนหุ้น AOT เก็งประเด็นแตกพาร์เป็น 1 บาทหลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดเทรดในวันนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ขณะที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สได้ติดลบ เนื่องจากวิตกนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ดีให้ติดตามกาประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.นี้ รอฟังถ้อยแถลงของประธานเฟดเท่านั้น ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯน่าจะแกว่งแคบ และวอลุ่มเทรดก็คงจะยังบางอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ม.ค.) SETพักฐาน” ในกรอบแคบ เพื่อปรับขึ้นต่อระยะสัปดาห์: SET “พักฐาน” ในกรอบแคบ 1,580-1,600 จุด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนเนื่องในเทศกาลตรุษจีน แต่ยังมองปรับขึ้นต่อระยะสัปดาห์ เป้าหมาย 1,622 หรือ 1,650 จุด.แนะนำ “ซื้อ” โดยกำไรไตรมาส 4/59 เติบโตแข็งแกร่ง เช่น IRPC BJC WHA รวมไปถึงกลุ่ม Micro finance ที่ยัง laggard SAWAD (PE17 ที่ 15.8x ต่ำกว่า MTLS ที่ 27.5x) และTurnaround plays: PLANB (เม็ดเงินโฆษณาเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Out of home media และแหล่งรายได้จาก Sport marketing จะส่งผลให้กำไรบริษัท +62% ปีนี้) และ WORK
ในขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” SUSCO ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 5.0 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ธุรกิจปั๊มน้ำมันได้รับผลดีโดยตรงจากค่าการตลาดที่ทรงตัวในระดับสูง และปริมาณการเติมน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสนับสนุนกำไรเติบโต 255% ปี 2559 ที่ 264 ล้านบาท 2) การปรับแผนขยายธุรกิจเชิงรุก โดยการขยายปั๊ม 20-30 แห่งต่อปี จะสนับสนุนการเติบโตกำไร 25% ต่อปีช่วง 2560-2561 3) Recurring income มีโอกาสเติบโตอีกมากจากการเร่งขยายปั๊มน้ำมันจาก 75 ล้านบาทในปี 2559 เป็น 123 ล้านบาทในปี 2561 และ 4) Valuation ไม่สูงที่ PE 14x และ PBV 1.3x ปี 2017 (PTG PE 30.7x, PBV 8.5x)
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,069.97 ล้านบาท ปิดที่ 408.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 722.63 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
PTL มูลค่าการซื้อขาย 595.48 ล้านบาท ปิดที่ 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
UV มูลค่าการซื้อขาย 492.68 ล้านบาท ปิดที่ 9.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 478.36 ล้านบาท ปิดที่ 418.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง