เก็ง 12 หุ้นเด็ดกำไรโต SET ฟื้นตัวหลังเฟดคงดบ.

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสฟื้นตัวหลังเฟกคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่กลุ่มพลังงานมีแนวโน้วฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่แนวโฯ้มกำไรไตรมาส 4/59 และ ปี 59 เติบโตดีเป็นหลัก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.09 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืน ขานรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและแสดงมุมมองในด้านบวกต่อเศรษฐกิจ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสฟื้นตัวหลังเฟกคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่กลุ่มพลังงานมีแนวโน้วฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่แนวโฯ้มกำไรไตรมาส 4/59 และ ปี 59 เติบโตดีเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก ASP-ASK-LH-PSH-INTUCH-MC-GLOBAL-AOT-KTB-TMB-BBL และ PTTGC

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ก.พ.) ว่า ภาวะการซื้อขายวานนี้ทรงตัวรอดูผลการประชุม FOMC ซึ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 0.50 – 0.75 % และยังรอดูผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ก่อนตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป ส่งผลให้แรงกดดันขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐลดลง และเป็นผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงตลาดหุ้นเกิดใหม่ กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET น่าจะทรงตัวที่ระดับ 1,570 – 1,590 จุด อยู่ในช่วงรอการประกาศผลประกอบการและจ่ายเงินปันผล แนะนำซื้อหุ้นที่มีอัตราจ่ายเงินปันผลสูง เช่น ASP, ASK, LH, PSH, INTUCH

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ก.พ.) ว่า SET อยู่ในช่วงการ “พักฐาน” ด้วยแนวรับ 1,567 จุด (อิงเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน) ต่อไป แต่ยังมอง “บวก” ระยะสัปดาห์จากการเข้าสู่ฤดูลงทุน ช่วงเดือน ก.พ. – เม.ย.  ซึ่งในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเป็น “บวก” ทุกปี ทั้งนี้ถ้าพิจารณาเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรม ค้าปลีก และท่องเที่ยวเป็นกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็น “บวก” สูง 75-80% ในเดือน ก.พ.

แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูง 75-80% ในเดือน ก.พ. และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่ง พื้นฐานดี

1) กลุ่มค้าปลีก: “ซื้อ” MC ผลดีราคาสินค้าเกษตรฟื้น หนุนกำลังซื้อ ปรับเหมาพื้นฐานขึ้นเป็น 19.00 บาท, และ GLOBAL

2) กลุ่มท่องเที่ยว: “ซื้อ” AOT (นักท่องเที่ยวฟื้น แตกพาร์เพิ่มสภาพคล่อง)

3) กลุ่มธนาคาร: “ซื้อ” KTB TMB (พื้นฐาน 2.52 บาท, กำไร Bottom-Out และคาดกลับมาขยายตัว +10% ปีนี้, Coverage Ratio สูง 142%)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ก.พ.) คงมุมมองเป็นกลางถึงบวก คาด SET มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวหลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5-0.75% ตามเดิมและยังไม่มีสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากรอดูความชัดเจนต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของ โดนัล ทรัมป์ โดยวันนี้คาดว่ากลุ่มพลังงานจะเป็นกลุ่มนำตลาดเนื่องจากได้ Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบที่กลับมาฟื้นตัวแรงหลังจาก EIA รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงและมีข่าวอิหร่านเตรียมทดสอบขีปนาวุธ

ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยที่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 28 เดือน มองว่ายังไม่น่ากังวลเนื่องจากอยู่ในกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของแบงก์ชาติอยู่แล้ว แต่มองอีกด้านจะเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารเพราะสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยธนาคารกรุงศรียังคงคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของบ้านเราจะทรงตัวที่ระดับ 1.5% ไปจนถึงสิ้นปี กลุ่มพลังงานทดแทนยังมีความเสี่ยงจากประเด็นข่าวใช้พื้นที่ สปก. ในการทำธุรกิจขัดต่อข้อกฏหมาย โดยปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กกพ., ที่ดิน และ สปก. อยู่ระหว่างหารือเพื่อหาข้อสรุป

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BBL (ซื้อ/เป้า 190.00 บาท) เก็งกำไรข่าวปรับเพิ่ม Foreign limit จาก 25% เป็น 49% ด้านปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งคาดกำไรสุทธิปีนี้กับมาเติบโต 11% จาก Loan growth ที่กลับมาขยายตัว, PTTGC (ซื้อ/เป้าใหม่ 76.00 เดิม 68.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/16 ประมาณ 9 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาสก่อน และ 92% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน รับผลบวก GRM และ Utilazation Rate เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมี Stock Gain เข้ามาช่วยหนุน

Back to top button