SETบ่ายไซด์เวย์เพื่อรอปัจจัยใหม่แนะเก็บ BEAUTY-KCE พื้นฐานดี
SETบ่ายไซด์เวย์เพื่อรอปัจจัยใหม่ โดยให้แนวรับ 1,565 แนวต้าน 1,580-1,585 จุด แนะเก็บหุ้นพื้นฐานดี BEAUTY-KCE เด่นสุด
SETบ่ายไซด์เวย์เพื่อรอปัจจัยใหม่ โดยให้แนวรับ 1,565 แนวต้าน 1,580-1,585 จุด แนะเก็บหุ้นพื้นฐานดี BEAUTY-KCE เด่นสุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (3 ก.พ.)ผันผวนในกรอบอิงในแดนบวก ดัชนีไปไม่ไกลและทดสอบ 1,580 จุด มองตลาดฯแกว่งไซด์เวย์ช่วงปัจจัยแวดล้อมยังไม่มีเรื่องใหม่ ตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งทั้งบวก-ลบรอติดตามนโยบาย”ทรัมป์” ส่วนในประเทศอยู่ในช่วงประกาศงบฯ ตลาดฯอาจซึมเล็กน้อย บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งตัวโดยให้แนวรับ 1,565 แนวต้าน 1,580-1,585 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ แต่อิงในแดนบวกมากกว่า ดัชนีฯก็ยังไปไหนไม่ไกลและอยู่ระหว่างทดสอบ 1,580 จุด โดยมองว่าตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อนในช่วงที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยต่างเฝ้าจับตานโยบายนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐต่อไป ส่วนปัจจัยในประเทศก็อยู่ในช่วงการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งในช่วงที่ยังไม่มีเรื่องใดโดดเด่นทำให้ตลาดฯอาจซึมลงเล็กน้อย ความกังวลของนักลงทุนจะอยู่ที่ปัจจัยภายนอกมากกว่า ทำให้วิตกความเสี่ยงในทางลงมากกว่า แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งตัวต่อไป โดยให้แนวรับ 1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,585 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SET ฟื้นตัวที่แนวรับ 1,570 จุด นำโดยหุ้นใหญ่อย่าง PTT PTTEP PTTGC รวมไปถึงหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่ในทางเทคนิคลุ้น SET ปิดเหนือ 1,580 จุดวันนี้ เป็นสัญญาจบรอบการพักฐาน และคาดว่าจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,620 หรือ 1,650 จุด
แนะนำ”ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่พื้นฐานดี แต่แรงขายทำไรก่อนหน้านี้ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับลดลงมาที่แนวรับทางเทคนิคแล้ว ได้แก่ 1) BEAUTY (TP 15.0): ราคาหุ้นปรับลดลงเกือบ 20% จากจุดสูงสุดในช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ยังไม่เห็นปัจจัยทางพื้นฐานที่เปลี่ยนไป คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/59 ขยายตัว +32% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 173 ล้านบาท ส่งผลกำไรทั้งปีที่ 651 ล้านบาท +62% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และตลาดในประเทศที่ยังเติบโตจะเป็นปัจจัยหนุนกำไรเติบโตต่อเนื่อง +42% ปีนี้ ที่ 924 ล้านบาท..ทางเทคนิคมีจังหวะ Rebound ที่แนวรับ 10.1 บาท ด้วยแนวต้าน 11.0 บาท
2) KCE (TP 140): ราคาหุ้นปรับลดลงมากเกินไป แม้ราคาแผ่นทองแดงที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตแผง PCB ปรับสูงขึ้น ทำให้เราปรับกำไรลง 9.4% ปีนี้ แต่ราคาหุ้นปรับลดลง 23% จากจุดสูงสุดปลายปีก่อน ขณะที่การเพิ่มกำลังการผลิตอีก 500,000 ตารางฟุต/เดือน ใน 1H17 จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตกำไร 20% ปีนี้ ราคาหุ้นมีจังหวะ Rebound ที่แนวรับ 102 บาท ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 114 บาท
“ซื้อ” AMA…การขยายกองเรือ หนุนการเติบโตกำไร: การขยายกองเรือขนส่งน้ำมันปาล์มเชิงรุกจาก 24k ตันในปี 2015 เป็น 47k ตันในปี 2016 และ 73-99k ตันในปี 2017-18 ซึ่งเป็นการขยายกองเรื่อที่มีความต้องการรองรับจากผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่เพื่อไปส่งในประเทศจีน และอินเดียที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลกอยู่แล้ว จะเป็นปัจจัยสนับสนุน กำไรขยายตัวแกร่ง +140% ปีนี้ที่ 362 ล้านบาท และ +61% ในปี 2018 ที่ 583 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจขนส่งน้ำมันจากโรงกลั่นไปที่คลังน้ำมันของ PTG มีโอกาสขยาย Fleet รถเท่าตัวจาก 95 คันในปัจจุบัน (ดู AMA เพิ่มในรายงาน Pathumwan Corner วันที่ 20 ม.ค.) ขณะที่ทางเทคนิคมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 26 และถัดไปที่ 27.50 บาท
สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,303.14 ล้านบาท ปิดที่ 412.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 840.02 ล้านบาท ปิดที่ 98.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 831.03 ล้านบาท ปิดที่ 19.00 บาท ลดลง 0.20 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 709.48 ล้านบาท ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 652.21 ล้านบาท ปิดที่ 8.90 บาท ลดลง 0.05 บาท