SET บ่ายยืนบวก – รับปัจจัยหนุนจากตปท.โบรกฯ แนะสอย 7 หุ้น พื้นฐานดีมีปัจจัยหนุน

SET บ่ายยืนบวก - รับปัจจัยหนุนจากตปท. พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด แนวต้าน 1,595 จุด โบรกฯ แนะสอย 7 หุ้น พื้นฐานดีมีปัจจัยหนุน นำโดย KBANK, TMB, KKP, AOT, BJC, BEUATY และ IRPC


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (6 ก.พ.)แกว่งตัวอยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกันตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยมีวอลุ่มปานกลาง ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากภายนอกประเทศเป็นหลัก หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้หุ้นกลุ่มแบงก์ ปรับตัวขึ้นโดดเด่น และมีการเก็งกำไรในหุ้นรายตัว ส่วนหุ้นกลุ่มสื่อสารยังคงกดดันตลาด ทิศทางช่วงบ่ายคาดว่า ตลาดฯน่าจะยืนอยู่ในแดนบวกได้ แต่ Upside จำกัด 

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวอยู่ในแดนบวกตลอดช่วงเช้า เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีวอลุ่มการซื้อขายปานกลาง ซึ่งน่าจะมีปัจจัยมาจากภายนอกประเทศเป็นหลัก ตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากตลาดขานรับตัวเลขการจ้างงานสหรัฐเดือนม.ค.ที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นเช้านี้ และมีการเก็งกำไรในหุ้นรายตัว ส่วนหุ้นกลุ่ม สื่อสารที่มีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/59 และปี 59 ออกมาไม่ค่อยดีนัก ยังคงเป็นตัวกดดันตลาดอยู่

สำหรับทิศทางการลงทุนช่วงบ่าย ตลาดฯน่าจะยังยืนอยู่ในแดนบวกได้ต่อ แต่คงมี Upside จำกัด จากความผันผวนที่ยังมีอยู่ ให้กรอบแนวรับ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,595 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (ก.พ.) SET ปรับสูงขึ้นต่อจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร และพลังงาน ขณะที่เราคงมุมมอง “บวก” ระยะสัปดาห์ด้วยเป้าหมาย 1,620 หรือ 1,650 จุด ต่อไป ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) SET เข้าสู่ Bull season ช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. 2) Consensus ปรับกำไรตลาดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคาร พลังงาน และ 3) Sentiment บวกจากตลาดหุ้นโลก

โดยแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ทางสถิติ 10 ปีที่ผ่านมามีโอกาสปรับขึ้น 75-80% ในเดือน ก.พ.และพื้นฐานดี ได้แก่ 1) กลุ่มธนาคาร “ซื้อ” KBANK TMB และ KKP 2) กลุ่มท่องเที่ยว: “ซื้อ” AOT 3) กลุ่มค้าปลีก “ซื้อ” BJC (แนวต้าน 52/53.50 บาท) และ BEUATY รวมไปถึงหุ้นที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/59 เติบโตดีมีปันผลรองรับอย่าง IRPC

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” KKP เป้าหมายพื้นฐาน 70 บาท จาก 1) สินเชื่อรวมของ KKP มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ปีนี้ +4.6% ขณะที่ NPL ผ่านจุดแย่ที่สุดไปตัแล้ว 2) แม้คาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่ KKP จะยังสามารถรักษา NIM สูง 4.4-4.3% ในปี 2016-2019 3) แม้คาดการณ์กำไรปี 2017 จะขยายตัวเพียง 7% แต่ยังดีกว่ากลุ่มที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 5% เท่านั้น ขณะที่ KKP ให้ผลตอบแทนปันผลสูงถึง 8.4% ปีนี้ (คาดปันผล 2.30 บาท สำหรับ ครึ่งหลังปี 60 ซึ่งจะประกาศปลายเดือน ก.พ.) สูงสุดในกลุ่มธนาคาร

 

สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

AOT    มูลค่าการซื้อขาย 1,866.63 ล้านบาท ปิดที่ 412.00 บาท ลดลง  4.00 บาท

TASCO  มูลค่าการซื้อขาย 1,352.64 ล้านบาท ปิดที่  24.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท

PTT    มูลค่าการซื้อขาย 1,102.52 ล้านบาท ปิดที่ 412.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 1,018.63 ล้านบาท ปิดที่ 195.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย   971.50 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

Back to top button