SET บ่ายสวิงแคบ – ไร้ปัจจัยใหม่แนะสอย 7 หุ้นพื้นฐานดีมีปัจจัยหนุน
SET บ่ายสวิงแคบ-เทรดในกรอบ พร้อมให้แนวรับ 1,580 แนวต้าน 1,600 จุด โบรกฯแนะสอย 7 หุ้นพื้นฐานดีมีปัจจัยหนุน นำโดย KBANK, TMB, KKP, AOT, BJC, BEUATY และ IRPC
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (7 ก.พ.) ปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่จะติดลบ แต่หุ้นไทยดูแข็งแกร่งกว่าเพื่อนบ้านเพราะปรับตัวลงน้อยกว่า มองรับผลจากประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย พูดว่ายังไม่ตัดประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนมี.ค.นี้ แต่ก็ต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจต่อไปด้วย ทำให้ตลาดชะลอลงทุน แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังต่ำกว่าเป้า 2% อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับลงได้ยาก มาจาก Fund Flow ที่ไหลเข้าตลาดตราสารหนี้แรงมาก ทำให้เงินบาทแข็งค่าส่งผลให้ช่วยประคองดัชนีฯไว้ เพียงแต่ Upside ดัชนีฯมีจำกัด เพราะตลาดฯมี Valuation สูง บ่ายนี้ตลาดฯคงจะสวิงแคบ-เทรดในกรอบ แนวรับ 1,580 แนวต้าน 1,600 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ แต่จะเห็นได้ว่าตลาดบ้านเราดูจะแข็งแกร่งกว่าเพื่อนบ้านเพราะปรับตัวลงน้อยกว่า ทั้งนี้มองว่าเป็นผลจากปัจจัยจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย ได้ออกมาพูดว่าการประชุมเฟดในเดือนมี.ค.จะยังไม่ตัดประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปได้ แต่ก็ยังต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจต่อไปด้วย ซึ่งทำให้ตลาดฯชะลอการลงทุน แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2%
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับลงได้ยาก มองว่ามาจาก Fund Flow ที่เข้ามา แม้ว่าจะยังไม่เห็นชัดมากนักในตลาดหุ้น แต่ตลาดตราสารหนี้จะเห็น Fund Flow ไหลเข้ามาแรงมาก และเข้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินบาทยังแข็งค่า และช่วยประคองดัชนีฯได้ เพียงแต่ Upside ดัชนีฯมีจำกัด เพราะตลาดฯมี Valuation สูง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะสวิงแคบ โดยเทรดในกรอบ พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.พ.) SET ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นพลังงาน: หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเกือบ 2% รวมถึงมีแรงขายทำกำไรออกมาในหุ้นธนาคาร ขณะที่เราคงมุมมอง “บวก” ระยะสัปดาห์ด้วยเป้าหมาย 1,620 หรือ 1,650 จุด ต่อไป ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) SET เข้าสู่ Bull season ช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. 2) Consensus ปรับกำไรตลาดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคาร พลังงาน
โดยแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ทางสถิติ 10 ปีที่ผ่านมามีโอกาสปรับขึ้น 75-80% ในเดือน ก.พ.และพื้นฐานดี ได้แก่ 1) กลุ่มธนาคาร “ซื้อ” KBANK TMB และ KKP 2) กลุ่มท่องเที่ยว “ซื้อ” AOT 3) กลุ่มค้าปลีก “ซื้อ” BJC (แนวต้าน 52/53.50 บาท) และ BEUATY รวมไปถึงหุ้นที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/59 เติบโตดีมีปันผลรองรับอย่าง IRPC
ในขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” KKP เป้าหมายพื้นฐาน 70 บาท จาก 1) สินเชื่อรวมของ KKP มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.6% ขณะที่ NPL ผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้ว 2) แม้คาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่ KKP จะยังสามารถรักษา NIM สูง 4.4-4.3% ในปี 2559-2562 3) แม้คาดการณ์กำไรปี 2560 จะขยายตัวเพียง 7% แต่ยังดีกว่ากลุ่มที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 5% เท่านั้น ขณะที่ KKP ให้ผลตอบแทนปันผลสูงถึง 8.4% ปีนี้ (คาดปันผล 2.30 บาท สำหรับครึ่งหลังปี 59 ซึ่งจะประกาศปลายเดือน ก.พ.) สูงสุดในกลุ่มธนาคาร
สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,160.79 ล้านบาท ปิดที่ 164.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 721.12 ล้านบาท ปิดที่ 412.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 717.03 ล้านบาท ปิดที่ 410.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 635.20 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 590.34 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง