AOT นำทัพ 9 หุ้นเด็ด SET ไซด์เวย์
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบ แต่แนวโน้มดีขึ้นโดยได้ปัจจัยบวกจากแรงเก็งกำไรหุ้นแบงก์เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า MSCI จะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในวันที่ 10 ก.พ. และกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ดัชนีช่วงเดือน ก.พ. - เม.ย. จากสถิติย้อนหลังมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูง การลงทุนเน้นกลุ่มที่ผลประกอบการดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุน และให้ปันผลดี
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.99 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน โดยตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลงจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มส่งออก ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งเมื่อคืนนี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบ แต่แนวโน้มดีขึ้นโดยได้ปัจจัยบวกจากแรงเก็งกำไรหุ้นแบงก์เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า MSCI จะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในวันที่ 10 ก.พ. และกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ดัชนีช่วงเดือน ก.พ. – เม.ย. จากสถิติย้อนหลังมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูง การลงทุนเน้นกลุ่มที่ผลประกอบการดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุน และให้ปันผลดี หุ้นเด่นเลือก AOT-KKP-MC-IRPC-QH-SCB-BR-RS และ IVL
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.พ.) SET มีแนวโน้ม Sideways กรอบ 1,580-1,594 จุด วันนี้ แต่ยังมอง “บวก” ต่อระยะสัปดาห์ เป้าหมาย 1,620/1,650 จุด เหมือนเดิมจากการเข้าสู่ Bull Season ช่วงเดือน ก.พ. – เม.ย. ซึ่ง SET มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูง 80-90% จากสถิติในอดีต 10 ปีที่ผ่านมา (7 ปีล่าสุดให้ผลตอบแทนเป็นบวกในเดือน ก.พ. ทุกปี) ขณะที่ความกังวลต่อนโยบายทรัมป์ ส่งผล US Bond yield 10 ปีปรับลดลงเหลือ 2.3% เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม yield plays
แนะนำ “ซื้อ” AOT ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 47.50 บาท จาก 1) จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. 2) พื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์เพิ่ม หนุนกำไรปีนี้โต 14% ขณะที่ 3) การแตกพาร์ ตั้งแต่วันนี้เป็น Sentiment บวกต่อสภาพคล่อง แนวต้าน 43.00 บาท รวมถึงการปรับลดลงของ Bond Yield เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มหุ้น Dividend Yield สูง และคาดการณ์ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” KKP (ปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร 8.3% ปีนี้), MC (กำลังซื้อผู้บริโภคฟื้น หนุนกำไรกลับมาโต 16% ปีนี้ PE ต่ำ 14.4 เท่า ปันผล 5.1%) และ IRPC (ค่าการกลั่นสูง ผลดีการ upgrade โรงกลั่นเต็มปี 2017 คาดปันผลปี 2016 4.4%)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.พ.) มีมุมมองเป็นกลางต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แม้จะมีปัจจัยบวกจากแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคารเนื่องจากนักลงทุนคาดหวัง MSCI จะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารในวันที่ 10 ก.พ. และกลุ่มพลังงานน่าจะกลับมาฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ แต่กลุ่มสื่อสารคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรโดยเฉพาะหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงอาทิ ADVANC ประกอบกับคาดว่านักลงทุนจะลดน้ำหนักการลงทุนเพื่อรอดูผลการลงคะแนนเสียงของรัฐสภาอังกฤษว่าจะเห็นด้วยกับแผน Brexit หรือไม่ ซึ่งวานนี้สภาสามัญชนของอังกฤษมีมติด้วยคะแนนเสียง 494 ต่อ 122 เห็นชอบต่อร่างกฎหมาย Brexit และส่งต่อไปยังสภาขุนนาง (House of Lords) เพื่อให้การรับรอง ซึ่งคาดว่าจะทราบผลทั้งหมดในวันที่ 10 ก.พ.17
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : QH (ซื้อ/เป้า 43.00 บาท) ตลาดตี Value ของธุรกิจอสังหาฯต่ำเกินไป หากนำ Market Cap ของ QH หักด้วย NAV ที่ QH ถือหุ้นใน HMPRO LHBANK QHPF และ QHHR จะมีค่าติดลบ 7,000 ล้านบาทต่ำสุดในรอบ 12 ปี และค่าเฉลี่ยในอดีต Value ของธุรกิจอสังหาฯจะเป็นบวกเฉลี่ย 4,000 ล้านบาท
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.พ.) ว่า SET ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสื่อสาร, ธนาคาร และท่องเที่ยว หลัง กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.5% เนื่องจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อยังต่ำ ภาวะการซื้อขายโดยรวมยังได้แรงหนุนจากทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่า ส่วนเช้าวันพรุ่งนี้ติดตามผล Review ของดัชนี MSCI
กลยุทธ์การลงทุน ประเมินกรอบดัชนีที่ระดับ 1,580 – 1,600 จุด แนะนำซื้อ SCB (ราคาเป้าหมาย 166.00 บาท) คาดสินเชื่อปีนี้ขยายตัว 5.6% และกำไรสุทธิยัง +8.5% จากปีก่อน และเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นที่สัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น BR, RS และ IVL