SET บ่ายแกว่งตัว โบรกฯ ชู 7 หุ้นเด่น มีปัจจัยหนุน

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (10 ก.พ.) เช้านี้ปรับตัวขึ้น แนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่อยู่ในแดนบวกทั่วหน้า ตอบรับ”ทรัมป์”จะปฏิรูประบบภาษีครั้งใหญ่ แต่มองการขึ้นของดัชนีเป็นแค่ชั่วคราว เพราะต้องรอดูรายละเอียดของแผนดังกล่าวด้วย นอกจากนี้น้ำหนักการลงทุนของ MSCI ในตลาดหุ้นไทยทั้ง Global standard และ Small Cap ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ตลาดฯมีโอกาสซึมลง เพราะไม่มีแรงซื้อจากหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาช่วยหนุนด้วย บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งตัว-อาจซึมลง พร้อมให้แนวรับ 1,578-1,574 แนวต้าน 1,592 จุด

 

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัล ทรัมป์ ประกาศจะปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ ซึ่งมองว่าเป็นการปรับขึ้นของดัชนีน่าจะเป็นเพียงแค่ชั่วคราว เพราะต้องดูรายละเอียดของแผนปฏิรูปดังกล่าวด้วย

ส่วนน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ในตลาดหุ้นไทยทั้ง Global standard และ Small Cap ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้สภาพตลาดฯมีโอกาสที่จะซึมตัวลง เพราะไม่มีแรงซื้อหุ้นใหญ่เข้ามาช่วยหนุนด้วย แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งตัว และอาจซึมลงได้ พร้อมให้แนวรับ 1,578-1,574 จุด ส่วนแนวต้าน 1,592 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.พ.) SET   ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศความคาดหวังเชิงบวกต่อนโยบายภาษีสหรัฐฯ ที่มีความชัดเจนมากขึ่นในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นโลก และสนับสนุน SET ฟื้นตัวตั้งแต่เปิดตลาดวันนี้ ยังประเมินแนวโน้ม SET ปรับสูงขึ้นต่อระยะสัปดาห์ต่อไป แนะนำ “ซื้อ” Dividend plays อย่าง KKP KTB MC IRPC รวมไปถึง Growth plays อย่าง SUSCO

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” TOP (TP 83 บาท) และ ESSO (TP 15 บาท) ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 จะออกมาดีจากค่าการกลั่น (GRM) สูง และมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 2) ธุรกิจปิโตรเคมีสาย Aromatic จะเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 ล่าสุดราคา Benzene ปรับสูงขึ้นมาที่ US$1040/ตัน ส่งผล Spread ระหว่าง Benzene กับ Naphtha สูงขึ้นกว่า US$500/ตัน 3) สำหรับ ESSO ยังได้รับผลดีจากการมีปั๊มน้ำมันกว่า 500 ปั๊ม ซึ่งได้ผลบวกจากค่าการตลาดทรงตัวในระดับสูง เช่นเดียวกัน ขณะทีทางเทคนิค TOP มีเป้าหมายระยะสั้นที่ 75 บาท และ ESSO ที่ 12.5/13.0 บาท

 

สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

PTT  มูลค่าการซื้อขาย 3,287.60 ล้านบาท ปิดที่ 396.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

KBANK   มูลค่าการซื้อขาย 1,535.84 ล้านบาท ปิดที่ 200.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ADVANC  มูลค่าการซื้อขาย 1,062.32 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท ลดลง  0.50 บาท     

AOT   มูลค่าการซื้อขาย   834.84 ล้านบาท ปิดที่  40.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท         

TRUE  มูลค่าการซื้อขาย  739.67 ล้านบาท ปิดที่  6.20 บาท  ลดลง  0.10 บาท