SET ลุ้นรีบาวด์ เคาะ 8 หุ้นร้อน ปันผล-กำไรโต

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ถูกกดดันจาก Fund Flow ไหลออก อย่างไรก็ตามมีโอกาสเกิด Technical Rebound หลังปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แนวรับสำคัญ 1,570 จุด กรณีดัชนียืนไม่ได้แนะนำลดพอร์ตการลงทุน การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการดี และให้ปันผลสูงเป็นหลัก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.00 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืน เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการแถลงรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยประธานเฟดระบุว่า การประวิงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานเกินไปนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ถูกกดดันจาก Fund Flow ไหลออก อย่างไรก็ตามมีโอกาสเกิด Technical Rebound หลังปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แนวรับสำคัญ 1,570 จุด กรณีดัชนียืนไม่ได้แนะนำลดพอร์ตการลงทุน การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการดี และให้ปันผลสูงเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก KKP-KTB-MC-IRPC-BCH-WHA-PTTGC และ BANPU

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.พ.) ว่า Trade Code ที่เปลี่ยนสถานะ SET เป็น “พักฐาน” จากเดิม “Let Profit Run” (ดูรายงาน Trade Code วันนี้) ประเมินแนวรับ 1,560/1,546 จุด ขณะที่ทางกลยุทธ์ลุ้นกลับมายืนเหนือ 1,574 จุดวันนี้ และมอง “บวก” ต่อระยะสัปดาห์ ขณะที่ถ้อยแถลง Janet Yellen เมื่อคืนนี้แสดงให้เห็นมุมมองที่ Hawkish ต่อเนื่องต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผล Bond yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับขึ้นมาที่ 2.48% เช้านี้ และเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น

Momentum ตลาดโดยรวมอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังมอง Yield plays และ Earnings plays จะยัง outperform ตลาด

1) Yield plays แนะนำ “ซื้อ” KKP (ปันผล 3.7% สำหรับครึ่งหลังปี 2016 และ 7.9% ปีนี้), KTB (PBV 1 เท่า ปันผล 4.6%) MC (PE ต่ำสุดในกลุ่มค้าปลีก ปันผล 5-6% ในปี 2016-17) สำหรับ IRPC แม้กำไรอ่อนแอกว่าทีคาดการณ์ไว้ แต่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.4% ตามคาด

2) Earnings plays: แนะนำ “ซื้อ” PTTGC กำไรไตรมาส 4/16 ดีกว่าคาด, WHA (กำไรไตรมาส 4/16 โตดี และ IPO ธุรกิจไฟฟ้าภายใน เม.ย.นี้) BJC

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.พ.) ว่า กลับมามีมุมมองเป็นกลาง แม้ช่วงเปิดตลาดดัชนีอาจจะปรับตัวลงจากโมเมนตัมเชิงลบต่อเนื่องจากเมื่อวาน และถูกกดดันจาก Fund Flow ไหลออก หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ด้วยดัชนีที่ปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมาทำให้ระหว่างวันมีโอกาสเกิด Technical Rebound และทำให้ SET เมื่อปิดตลาดเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนไม่มาก โดยหุ้นในกลุ่มธนาคารมีโอกาสฟื้นตัวเนื่องจากได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น แต่ AOT PTT และ TOP ยังมีแรงกดดันเนื่องจากมีความไม่ชัดเจนต่อประเด็นการเก็บค่าเช่าที่ดินของกรมธนารักษ์ กลุ่มพลังงานทดแทนวันนี้ต้องติดตามการประชุมระหว่างกระทรวงพลังงานและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อหารือประเด็นการใช้พื้นที่ สปก.

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BCH (ซื้อ/เป้า 18.00 บาท) ราคาร่วงจากความกังวลต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศลาวมากเกินไปขณะที่ปัจจัยพื้นฐานโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลง และ BCH ยังมี Upside และได้ประโยชน์มากที่สุดหากประกันสังคมปรับขึ้นอัตราค่าเช่าเหมาจ่ายค่าบริการทางการแพทย์

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.พ.) ว่า ภาวะการซื้อขายวานนี้มีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน, ธนาคาร เป็นการลดพอร์ตลงเพื่อติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด ขณะที่ AOT ปรับตัวลดลงจากประเด็นข่าวกรมธนารักษ์จะปรับค่าเช่าที่ราชพัสดุบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะคิดผลตอบแทนจากมูลค่าสินทรัพย์จากเดิมคิดจากส่วนแบ่งกำไร สำหรับถ้อยแถลงของประธานเฟดที่หนุนการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้โอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม มี.ค. อยู่ที่ 34 % และดัชนี Dollar Index วานนี้แข็งค่าขึ้น 0.26% อยู่ที่ระดับ 101.22

กลยุทธ์การลงทุน วันนี้วาง Filter แนวรับสำคัญไว้ที่ 1,570 จุด ในกรณีดัชนียืนไม่ได้ แนะนำลดพอร์ตการลงทุนลง อย่างไรก็ตามจากภาวะการซื้อขายตลาดเอเชียช่วงเช้ายังทรงตัวในแดนบวก และค่าเงินบาทยังไม่มีทิศทางอ่อนค่า น่าจะช่วยพยุงดัชนีให้ยืนเหนือระดับ 1,570 จุดได้ แนะนำซื้อ PTTGC (+ ผลประกอบการปี 59 +25 % และ ไตรมาส 4/59 ดีกว่าคาดการณ์ ), BANPU ( + MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักจากลงทุนจากเดิม 0.89 % เป็น 1.3% )

Back to top button