SET บ่ายยืนลบ โบรกฯ แนะสอย 6 หุ้นกำไรหรู-ปันผลเด่น

SET บ่ายยืนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,560 แนวต้าน 1,575 จุด โบรกฯ แนะสอย 6 หุ้นกำไรหรู-ปันผลเด่น นำโดย PTTGCH, WHA, BJC, KKP, KTB และ IRPC


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (15 ก.พ.) ปรับตัวลงสวนทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน เช่นเดียวกับดาวโจนส์ หลังจากที่มีความชัดเจนมากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่ง ถึงได้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตรงนี้น่าจะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกดีขึ้นไปด้วย ส่วนบ้านเราได้รับแรงกดดันจากหุ้น AOT จากผลกระทบค่าเช่าที่อาจเพิ่มตามการตีความของกรมธนารักษ์ และยังเจอแรงขายจากกลุ่มแบงก์ด้วย โดย Valuation ค่อนข้างสูงหลังขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้ บ่ายนี้ตลาดฯคงจะยังติดลบ จากแรงกดดันที่เป็นปัจจัยเฉพาะตัวหุ้น พร้อมให้แนวรับ 1,560 แนวต้าน 1,575 จุด

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน ซึ่งเป็นไปตามดาวโจนส์ หลังจากที่มีความชัดเจนมากขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีความแข็งแกร่งขึ้น ถึงได้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกดีขึ้นไปด้วย

สำหรับตลาดบ้านเราได้รับแรงกดดันหลักจากหุ้น AOT โดยอาจเจอผลกระทบจากค่าเช่าที่อาจเพิ่มขึ้นตามการตีความของกรมธนารักษ์ นอกจากนี้ยังเจอแรงขายจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ จากที่ Valuation ค่อนข้างสูงแล้วหลังจากที่ได้ขยับขึ้นไปก่อนหน้านี้ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดมีโอกาสที่จะยังติดลบอยู่ จากแรงกดดันที่เป็นปัจจัยเฉพาะตัวหุ้น พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ก.พ.) แรงซื้อในช่วงเปิดตลาดไม่สามารถพยุง SET ปรับสูงขึ้นได้ ขณะที่แรงขาย AOT กดดัน Sentiment ตลาด และ SET ปรับลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ขณะที่เรายังลุ้นการฟื้นตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,574 จุด เพื่อปรับสูงขึ้นต่อระยะสัปดาห์ ตามผลของฤดูกาลในเดือน ก.พ.-เม.ย. รวมไปถึงการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนจะทำให้ downside risk ระยะสั้นยังจำกัดแนะนำ “ซื้อ” yield plays และ earnings plays ต่อ อย่าง PTTGCH, WHA, BJC, KKP, KTB และ IRPC

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” PTTGC เป้าหมายพื้นฐาน 73 บาท ราคาหุ้น Outperform ตลาดวันนี้หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ที่ 9.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% จากปีก่อนและ เพิ่มขึ้น 57% จากไตรมาสก่อนดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และส่งผลให้กำไรทั้งปี 2559 ที่ 2.56 พันล้านบาทดีกว่าที่คาดเกือบ 40% และคาดว่าราคาหุ้นจะ Outperform ตลาดต่อ เนื่องจาก 1) Spread ปิโตรฯ ในสาย Olefin โดยเฉพาะ LDPE และ LLDPE อยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในไตรมาส 1/60 2) ค่าการกลั่นยังทรงตัวในระดับสูง US$6-7/bbl ในปัจจุบัน และ 3) ส่วนต่างระหว่างราคา Benzene กับวัตถุดิบปรับสูงขึ้นแกร่ง US$500/ตัน ในปัจจุบัน เป็นปัจจัยหนุนกำไร ขณะที่ 4) แผนซื้อธุรกิจปิโตรฯ จาก PTT มูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท เป็น upside ต่อผลการดำเนินงานในอนาคต และยังไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการของเรา

 

สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

AOT  มูลค่าการซื้อขาย 5,887.08 ล้านบาท ปิดที่  37.50 บาท ลดลง  2.00 บาท

PTT  มูลค่าการซื้อขาย 2,358.29 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท         

ADVANC  มูลค่าการซื้อขาย 1,631.46 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BANPU  มูลค่าการซื้อขาย 1,333.58 ล้านบาท ปิดที่  19.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท                 

BLAND  มูลค่าการซื้อขาย   925.65 ล้านบาท ปิดที่   1.82 บาท ลดลง  0.13 บาท

Back to top button