SET เสี่ยงปรับลง เลือกเก็งกำไร 10 หุ้นเด่นงบดี
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบแคบ และมีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีแรงหนุนจากการเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตช่วยพยุงตลาด การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการดีและเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าเป็นหลัก
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.98 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงใน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเมืองสหรัฐ ขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐได้ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบแคบ และมีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีแรงหนุนจากการเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตช่วยพยุงตลาด การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการดีและเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก PLANB-PTTGC-AMATA-BEAUTY-KKP-SUSCO-ASEFA-ERW-MINT และ CENTEL
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) คาด SET เคลื่อนไหว Sideways วันนี้กรอบ 1,564-1,580 จุด และคาดว่านักลงทุนจะ “เลือกซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานออกมาดี (Earnings Play) และกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง (Dividend Play) ในช่วงนี้ ขณะที่ยังมอง “บวก” ระยะสัปดาห์จากผลของฤดูกาล Bull ช่วง ก.พ.-เม.ย. และ Consensus ปรับกำไรบริษัทจดทะเบียนขึ้น
แนะนำ “ซื้อ” SUSCO พื้นฐาน 5.00 บาท หุ้นเติบโต ด้วยกำไรขยายตัว 255% ปี 2016 และ 25% ต่อปีใน 2017-18 จาก 1) ค่าการตลาดยังสูงจากปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น ภาวะการแข่งขันไม่รุนแรง 2) ขยายสาขาเชิงรุก 10-15% ต่อปี 3) รายได้ค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์เติบโตได้อีกมาก 4) Valuation ที่ PE 14 เท่า ยังต่ำกว่า PTG ที่ 31 เท่า ขณะที่ 5) ทางเทคนิคอิง Trade Code อยู่ที่ “Let Profit Run” แนวต้าน 4.62/5.2 บาท
และ “ซื้อ” Earnings Play ที่กำไรไตรมาส 4/16 ออกมาดี อย่าง PLANB PTTGC AMATA รวมไปถึง BEAUTY ที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/16 จะเติบโตแกร่ง ขณะที่หุ้นปันผลเด่นแนะนำ “ซื้อ” KKP รับปันผลครึ่งปีหลังของปี 16 ที่ 3.7% (2.30 บาท/หุ้น) และปีนี้ที่ 7.8% (4.90 บาท/หุ้น)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) มีมุมมองเป็นกลางถึงลบ คาด SET มีโอกาสปรับลง จากตัวเลข GDP ไตรมาส 4/16 มีแนวโน้มจะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายในประเทศที่ชะลอตัวในช่วงไว้อาลัย และภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ (ฝ่ายวิจัยและตลาดส่วนใหญ่คาด GDP ไตรมาส 4/16 จะขยายตัว 3% และปี 2016 จะขยายตัว 3.2%)
อย่างไรก็ตาม ยังคาดหวังแรงเก็งกำไรของนักลงทุนในหุ้นรายตัวจากการประกาศผลประกอบการและประกาศจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนจะช่วงประคองดัชนีไม่ให้ลดลงมาก ซึ่งสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้าจะเป็น 2 สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบปี 2016 ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มบริษัทขนาดกลางและเล็ก อาทิ กลุ่มอสังหาฯ, ค้าปลีก, โรงพยาบาลและกลุ่มท่องเที่ยว
ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีประเด็นใหม่วันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์นักลงทุนยังรอดูการประกาศนโยบายด้านภาษีของนายโดนัล ทรัมป์ และสุดท้ายหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวคือ 1) กลุ่มพลังงานทดแทน (TPCH GUNKUL EA DEMCO) กพช.เห็นชอบให้ประกาศรับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT จากโรงไฟฟ้า SPP และ VSPP กำลังการผลิตรวม 568 MW โดยมีเป้าหมายสำหรับการผลิตเชิงพานิชย์ (SCOD) ไม่เกินปี 2563 2) TRC รับผลบวก ครม.มีมติให้เพิ่มทุนในบริษัทอาเซียนโปรแตสชัยภูมิ ทำให้โครงการเหมืองโปรแตสมีโอกาสเดินหน้าต่อ
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : ASEFA (ซื้อ/เป้า 9.30 บาท) แจ้งกำไรไตรมาส 4/16 ดีเกินคาด พร้อมประกาศจ่ายปันผล 0.32 บาทต่อหุ้น ให้ปันผลตอบแทนจากเงินปันผล 4% กำหนดขึ้น XD 2 พ.ค.17
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) วางแนวรับสำคัญสัปดาห์นี้ที่ระดับ 1,570 จุด ยืนได้ถือ กรณียืนไม่ได้แนะนำลดพอร์ตลง โดยดัขนีมีแนวต้าน 1,590 จุด แนะนำทยอยซื้อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ERW, MINT, CENTEL คาดผลประกอบการเริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 1/60 นี้