SET บ่ายแกว่งแคบ – ไร้ปัจจัยใหม่โบรกฯ ชู 2 หุ้น ธุรกิจแจ่ม-ปันผลสูง
SET บ่ายแกว่งแคบ - ไร้ปัจจัยใหม่หนุน พร้อมให้แนวรับที่ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,585 จุด โบรกฯ ชู 2 หุ้น ธุรกิจแจ่ม-ปันผลสูง นำโดย SUSCO และ KKP
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (20 ก.พ.) แกว่งตัวกรอบแคบไร้ปัจจัยใหม่หนุน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/59 โต 3% ไม่ได้เซอร์ไพรส์ตลาด ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังต้องระมัดระวังผลจากนโยบายประธานาธิบดีสหรัฐ โดยเฉพาะการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงระยะสั้นยังมีความผันผวนของ fund flow ด้วย ส่วนการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ช่วงนี้น่าจะเป็นเพียงการช่วยประคองตลาดเท่านั้น ภาคบ่ายมองดัชนีจะยังแกว่งกรอบแคบต่อไป มีแนวรับที่ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,585 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวแคบหลังจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน โดยการแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 4/59 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เช่านี้พบว่าขยายตัวในอัตรา 3% จากงวดปีก่อน ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์ต่อตลาด
ขณะที่ตลาดยังให้ความระมัดระวังต่อปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตามความชัดเจนในนโยบายของประธานาธิบดีโดนีลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ โดยเฉพาะการปรับลดภาษีที่ยังไม่มีรายละเอียดออกมา แต่เบื้องต้นเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของสหรัฐ และระยะสั้นยังมีความผันผวนของ fund flow ที่ปัจจุบันเป็นลักษณะของการซื้อสลับขาย ทำให้นักลงทุนยังต้องมีความระมัดระวังการซื้อขายหุ้น
ส่วนการทยอยประกาศผลประกอบการในไตรมาส 4/59 และปี 59 ของ บจ.ที่ออกมานั้นไม่ได้แข็งแกร่งเพียงพอที่จะผลักดันให้ดัชนีขยับขึ้นไปบริเวณ 1,600 จุด และการประกาศจ่ายเงินปันผลน่าจะเป็นเพียงการช่วยรองรับการอ่อนตัวของตลาดฯ ไว้ได้บ้างเท่านั้น สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในภาคบ่าย คาดว่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ ให้แนวรับบริเวณ 1,570 จุด และแนวต้านที่ 1,585 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) SET เคลื่อนไหวแคบตั้งแต่เปิดตลาด และยังอยู่ในแนวโน้ม “พักฐาน” ต่อเนื่อง ขณะที่ GDP ไตรมาส 4/59 ขยายตัว เพิ่มขึ้น 3%จากปีก่อนแม้การบริโภคภาคเอกชนจะเป็นปัจจัยหนักที่สนับสนุนการขยายตัว แต่ถือว่าขยายตัวในอัตราเร่งที่ลดลงเหลือ เพิ่มขึ้น 2.5% ลดลงจากช่วง ไตรมาส 2/59-ไตรมาส 3/59 ที่ เพิ่มขึ้น 3.0-4.0% สำหรับการลงทุนภาครัฐฯ ยังขยายตัวเด่นต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 8.6%จากปีก่อน
ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนหดตัวลง -0.4% และยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัว ส่งผลให้ GDP ปี 2559 ทั้งปีขยายตัว เพิ่มขึ้น 3.2%จากปีก่อน และสภาพัฒน์ คาด GDP ปีนี้ขยายตัว 3-4% เหมือนเดิม
สำหรับกลุ่มหุ้นแนะนำ ยังแนะนำ “ซื้อ” SUSCO ที่เป็น Growth plays ต่อเนื่อง รวมไปถึงกลุ่มหุ้นปันผลสูงอย่าง KKP โดยคาดว่าให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลครึ่งหลังปี 59 จำนวน 3.7% และปี 2560 ที่ 7.8%GDP ไตรมาส 4/59 เพิ่มขึ้น 3.0%จากปีก่อนและทั้งปี 2559 ขยายตัว เพิ่มขึ้น 3.2%จากปีก่อน
สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,039.55 ล้านบาท ปิดที่ 36.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 648.13 ล้านบาท ปิดที่ 40.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
JAS มูลค่าการซื้อขาย 614.04 ล้านบาท ปิดที่ 9.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 506.73 ล้านบาท ปิดที่ 2.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 456.46 ล้านบาท ปิดที่ 516.00 บาท ลดลง 6.00 บาท