SET บ่ายแกว่งไซด์เวย์-รอรายงานประชุมเฟดโบรกฯ แนะสอย 7 หุ้นเด่น งบสวย-ปันผลหรู
SET บ่ายแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,570-1,560 จุด ติดตามรายงานประชุมเฟด โบรกฯ แนะสอย 7 หุ้นเด่น งบสวย-ปันผลหรู นำโดย KKP, TISCO, KTB, PLANB, EASON, SUSCO และ PTTGC
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (22 ก.พ.) แกว่งไซด์เวย์ค่อนข้างอ่อนแอ-วอลุ่มเทรดแผ่ว เหตุขาดปัจจัยหนุนและยังมีแรงขายทำกำไรหุ้นกลาง-เล็ก รอปัจจัยใหม่มากระตุ้นตลาดฯ ขณะนี้ต่างรอรายงานผลประชุมเฟดและการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ส่วนบ้านเราหลังประกาศงบฯก็เจอ Sell on fact แต่ยังได้แรงค้ำจากลุ้นปันผล บ่ายนี้ตลาดฯคงยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,570-1,560 จุด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ และค่อนข้างอ่อนแอ วอลุ่มเทรดแผ่ว เนื่องจากตลาดฯขาดปัจจัยหนุน รวมทั้งยังมีแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดกลางและเล็กอย่างต่อเนื่อง แสดงสัญญาณการเก็งกำไรไม่ค่อยดี ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาเทรดดิ้ง คงจะต้องรอปัจจัยใหม่กระตุ้นตลาดฯ โดยขณะนี้ต่างก็รอติดตามรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการเลือกตั้งในฝรั่งเศส
สำหรับการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็ทำให้มีแรงขาย Sell on fact ออกมา เนื่องจากบางรายมองว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 จะยังไม่ฟื้นอย่างที่คาดการณ์ ทำให้ตัดสินใจขายทำกำไรออกมาก่อนเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้แรงค้ำจากบางบริษัทฯที่มีการจ่ายปันผล และหุ้นบางตัวที่ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดี แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ ในกรอบ 1,570-1,560 จุด ซึ่งนักลงทุนที่ได้ขายหุ้นออกไปแล้วก็น่าจะ Wait&See ไปก่อน
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.พ.) SET มีจังหวะ rebound ที่แนวรับ 1,564 จุด โดยการฟื้นตัวของตลาดหุ้น Dow Jones จากผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนดีกว่าคาด รวมไปถึงคาดว่าจะเห็นความชัดเจนจากมาตรการภาษีในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ หนุน SET ฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับ 1,564 จุด โดยแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ปันผลดีอย่าง KKP (3.7% สำหรับ ครึ่งหลังปี 60) TISCO (5.2% สำหรับปี 2560) KTB รวมไปถึงหุ้นกำไรเติบโตเด่นอย่าง PLANB EASON SUSCO ต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” PTTGC ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 73 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 1/60 จาก สาย Olefin ได้ผลดีจากราคาผลิตภัณฑ์ LDPE และ LLDPE ที่สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนทรงตัว ขณะที่ธุรกิจ Aromatic ได้ผลดีจากส่านต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์ Benzene กับวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นมาสูงกว่า US$500/ตัน และ ค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง US$6-7/bbl และด้วยปริมาณความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปริมาณการกลั่นน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทำให้คาดว่าค่าการกลั่นจะอยู่ในระดับสูงตลอดปี 2560 ทางเทคนิคทะลุสามเหลี่ยม ascending เป้าหมายระยะสั้น 71.25/74
สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,113.67 ล้านบาท ปิดที่ 400.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 735.02 ล้านบาท ปิดที่ 35.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 733.32 ล้านบาท ปิดที่ 60.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 708.56 ล้านบาท ปิดที่ 8.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 653.48 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท