SET บ่ายแกว่งแคบ โบรกฯ คัด 6 หุ้นน่าสอยมีปัจจัยหนุน
SET บ่ายแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด และแนวต้านที่ 1,565 จุด โบรกฯ คัด 6 หุ้นน่าสอยมีปัจจัยหนุน นำโดย KKP, ESSO, WORK, PLANB, MTLS และ MALEE
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (28 ก.พ.)แกว่งกรอบแคบรอการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีสหรัฐคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลต่อการลงทุนในระยะต่อไป ขณะที่ภายในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อตลาดมากนัก อีกทั้งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายประกาศงบปี 59 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) คาดดัชนียังน่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบต่อไปในภาคบ่าย ให้แนวรับ 1,550 จุด และแนวต้านที่ 1,565 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบในแดนบวก โดยยังรอดูนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันคืนนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธเวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดต่อไป เพราะจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะต่อไป
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีอะไรโดดเด่น ประกอบกับเป็นช่วงโค้งสุดท่ายของการประกาศผลประกอบการปี 59 ซึ่งคงไม่ได้ส่งผลต่อการฟื้นตัวของตลาดมากนัก ด้านแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยให้กรอบแนวรับ 1,550 และ 1,565 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ก.พ.) SET ฟื้นตัวดี ด้วแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารโดยเฉพาะ KBANK และกลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ออกมาดี อย่างไรก็ดีเรามองว่า upside วันนี้จะยังจำกัดที่ 1,568 จุด เท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มีแนวโน้มชะลอการลงทุน รอความชัดเจนนโยบายภาษีทรัมป์คืนนี้ แนะนำ “ซื้อ” KKP ต่อเนื่อง เพื่อรับปันผล 4 บาท/หุ้น (XD 28 เม.ย.) สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 59 รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่กำไรเติบโตดี อย่าง ESSO WORK PLANB และ MTLS ที่คาดการณ์กำไรเติบโตสูงต่อเนื่อง 54-46% ในปี 2017-18
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” MALEE ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำผลไม้รายใหญ่ในประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาด 22% และขยายตลาดน้ำมะพร้าว (OEM) ที่มีการเติบโตสูงในสหรัฐฯ แนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 117 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) คาดการณ์กำไรเติบโตแกร่ง 30-21% ปี 2560-2561 2) Valuation ต่ำกว่ากลุ่ม PE20x vs กลุ่ม 24x หรือ PEG 0.7x vs กลุ่ม 1.5x 3) Balance sheet แข็งแรง D/E 0.6x และความสามารถทำกำไรสูง ROE 38% แนะนำ “ซื้อ” Trade Code ปรับขึ้นมาที่ “เริ่มสะสม” เป้าหมายระยะสั้น 102 บาท หรือถัดไปที่ 109.5 บาท
สรุปหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 644.72 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 434.52 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
MTLS มูลค่าการซื้อขาย 409.12 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 337.23 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
TKN มูลค่าการซื้อขาย 336.47 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ่น 2.00 บาท