SET บ่ายแกว่งแคบ คัด 9 หุ้นเด็ด มีปัจจัยหนุน
SET บ่ายแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,550-1,540 แนวต้าน 1,560-1,570 จุดโบรกฯ คัด 9 หุ้นเด่นน่าสอย ปัจจัยบวกเพียบ นำโดย KBANK TMB KTB WORK PLANB SAWAD STA KKP และ TISCO
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (7 มี.ค.) แกว่งแคบทั้งแดนบวก-ลบเล็กน้อย คล้ายตลาดภูมิภคและดาวโจนส์ฟิวเจอร์สช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันก็รอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯศุกร์นี้คาดเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งเป็นข้อมูลสำคัญให้เฟดพิจารณาอัตราดอกเบี้ยล่าสุดน้ำหนักปรับขึ้นสูงถึงกว่า 80-90% แล้ว บ่ายนี้ให้แนวรับ 1,550-1,540 แนวต้าน 1,560-1,570 จุด
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย คล้ายกับตลาดในภูมิภาคเอเชีย และดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็ก ๆ เนื่องจากตลาดฯกำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา
ขณะเดียวกัน ตลาดฯ รอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ต่างคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้ประกอบการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.นี้ ล่าสุดผลสำรวจหลายสำนักต่างให้น้ำหนักสูงถึงกว่า 80-90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ เพราะแม้แต่ตลาดภูมิภาคก็ยังซึม วอลุ่มเทรดก็ไม่มาก ซึ่งตลาดฯคงจะเป็นแบบนี้ไปจนกว่าจะมีปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,550-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560-1,570 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มี.ค.) SET เคลื่อนไหวก่อนการประชุม Fed วันที่ 15 มี.ค.ซึ่งคาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% แนะนำ “Selective” 1) ธนาคารขนาดใหญ่ ที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น อย่าง KBANK TMB KTB 2) กลุ่มหุ้นกำไรเติบโตสูง WORK PLANB SAWAD และ STA และ 3) หุ้นปันผลสูง อย่าง KKP TISCO
ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” KKP ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 75 บาท จาก 1) ปันผลสำหรับครึ่งหลังปี 59 ที่ 4 บาท /หุ้น คิดเป็น Dividend yield 6% จะ XD วันที่ 28 เม.ย.นี้ และจ่ายเงินปันผล 3 พ.ค.นี้ 2) การบริหารเงินทุนที่ดี ทำให้ KKP สามารถจ่ายเงินปันผลสูง ด้วย payout ratio 80-86% ในปี 2560-2561 หรือปันผล 9% ในปี 2560-2561 (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) โดยไม่ทำให้เงินกองทุน Tier I ต่ำกว่า 15% 3) สินเชื่อมีแนวโน้มฟื้นตัว เพิ่มขึ้น 4.6% ปีนี้ จากหดตัวลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 4) ผลกระทบจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ของธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์น้อยลงกว่าในอดีตมาก เนื่องจากมี CASA สูง 56% ของเงินทุนปี 2560 เทียบกับปี 2556 ที่มีสัดส่วน CASA ต่ำเพียง 13% และ 5) การรับงานที่ปรึกษาไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์, บีกรีม, โอสถสถา และ PTTOR ในปี 2560-2561 ของ PHATRA จะเป็นปัจจัยบวกต่อ Fee income ของ KKP ด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 885.90 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 836.65 ล้านบาท ปิดที่ 59.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 710.68 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 555.12 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท ลดลง 0.10 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 529.57 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง