จัดทัพ 17 หุ้นเด็ด SET ผันผวนกรอบแคบ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบจำกัดก่อนการประชุมเฟด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจะส่งผลลบต่อหุ้นหลักในกลุ่มพลังงาน การรีบาวด์หรือปรับตัวขึ้นของดัชนีจึงค่อนข่างจำกัด การลงทุนเน้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.29 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน โดยตลาดหุ้นโตเกียวบวกหลังเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคได้รับแรงกดจากกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบจำกัดก่อนการประชุมเฟด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจะส่งผลลบต่อหุ้นหลักในกลุ่มพลังงาน การรีบาวด์หรือปรับตัวขึ้นของดัชนีจึงค่อนข่างจำกัด การลงทุนเน้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

หุ้นเด่นเลือก KBANK-KTB-TMB-KKP-SCC-PTTGC-KCE-HANA-CPF-GFPT-PSL-TTA-SPRC-BLA-ADVANC-INTUCH และ LHBANK

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มี.ค.) ว่า SET “ผันผวน” เพิ่มขึ้นก่อนการประชุม FOMC วันที่ 15 มี.ค.นี้ ที่คาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1% สนับสนุนนักลงทุนต่างชาติ “ปรับพอร์ต” ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การกลับยืนได้เหนือแนวรับ 1,546 จุด วานนี้ และเกิดแท่งเทียน Hammer ทำให้มีโอกาสเกิด Technical rebound ระยะสั้น ด้วยแนวต้าน 1,558 จุด หรือ เส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนที่ 1,565 จุด

แนะนำการลงทุน มองแค่ Technical Rebound เท่านั้น และควรจำกัดพอร์ต “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น อย่างกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ KBANK KTB และ TMB ขณะที่ธนาคารขนาดกลางที่มีการบริหาร NIM ได้ดีและให้ปันผลสูงอย่าง KKP ยังน่าสนใจต่อไป

นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” 1) SCC เป้าหมาย 580 บาท ได้รับผลดีจาก spread ปิโตรฯ อย่าง LDPE LLDPE Butadiene และ PVC ที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/17 ขณะที่ PE 11 เท่า ในปัจจุบันยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 12.9 เท่า มาก 2) PTTGC เป้าหมาย 84.00 บาท (upgrade วันนี้) ได้รับผลดีจาก spread ปิโตรฯ เหมือน SCC และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นหนุนกำไรโตเด่น 30 – 14% ปี 2017 – 18

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มี.ค.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด แม้ดัชนีจะได้โมเมนตัมเชิงบวกจากการฟื้นตัวของดัชนีในช่วงท้ายตลาด แต่วันนี้มีปัจจัยลบใหม่เข้ามา คือ ราคาน้ำมันดิบลดลงแรงกว่า 5.4% ส่งผลลบต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ประกอบกับในสัปดาห์หน้าตลาดยังมีความไม่แน่นอนต่อประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการเลือกตั้งประธานาธิบดีของเนเธอร์แลนด์ในวันที่ 15 มี.ค. ทำให้การปรับขึ้นของดัชนีเป็นไปอย่างจำกัด

ส่วนการไหลออกของ Fund Flow ต่างชาติ สะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่อ่อนค่าคาดว่าจะเริ่มชะลอตัวเนื่องจากนักลงทุนได้ปรับพอร์ตสะท้อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดไปบ้างแล้วดังนั้นการปรับลงของดัชนีน่าจะอยู่ในกรอบจำกัดเช่นกัน ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงเน้นการ Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า คือ อิเล็กทรอนิกส์ (KCE HANA) และกลุ่มอาหาร (CPF GFPT) กลุ่มเดินเรือ (PSL TTA) ดัชนีค่าระวางเรือ BDI เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 12 จุด ปิดที่ 1,045 จุด (+1.16%), รวมถึงหุ้นที่จ่ายปันผลสูง (KKP SPRC)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BLA (ซื้อ/เป้า 64.00 บาท) รับผลบวกอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield 10 ปี) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.767% ทำสถิติสูงสุดของปีนี้ และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มี.ค.) ทิศทางค่าเงินบาทเข้านี้อ่อนค่าลงสู่ระดับ 35.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ด้านภาวะการซื้อขายเช้านี้คาดยังถูกแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลง แต่คาดจะมีการสนับกลุ่มเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้น High Dividend Yield เช่น ADVANC, INTUCH เพื่อรอประเมินการประชุม ECB เย็นนี้และการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า

กลยุทธการลงทุน ประเมินดัชนี SET แกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,560 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร LHBANK (Consensus 1.97 บาท) จากประเด็นบวกพันธมิตร CTBC ช่วยเสริมฐานทุนธนาคารในการขยายธุรกิจในอนาคต

Back to top button