จัดทัพ 21 หุ้นเด็ด SET ยืนแดนบวก

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังตลาดคลายความกังวลต่อประเด็นเฟด และมีความคาดหวังต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบเกือบ 6 เดือน ด้านปัจจัยภายนอกและภายในระยะสั้นยังไม่มีความเสี่ยง การลงทุนยังเน้นเก็งกำไร โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัจจัยบวกจากดอกเบี้ยขาขึ้น หรือเลือกเก็บหุ้นที่พื้นฐานดี แนวโน้มผลประกอบการเติบโต


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.66 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ซบเซา หลังกลุ่ม G20 ไม่ได้แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการต่อต้านการกีดกันทางการค้าในการประชุมเมื่อวันที่ 17-18 มี.ค. ที่เมืองบาเดน-บาเดน เยอรมนี

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังตลาดคลายความกังวลต่อประเด็นเฟด และมีความคาดหวังต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบเกือบ 6 เดือน ด้านปัจจัยภายนอกและภายในระยะสั้นยังไม่มีความเสี่ยง การลงทุนยังเน้นเก็งกำไร โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัจจัยบวกจากดอกเบี้ยขาขึ้น หรือเลือกเก็บหุ้นที่พื้นฐานดี แนวโน้มผลประกอบการเติบโต หุ้นเด่นเลือก HANA-TACC-BIG-BR-TU-PTTGC-SUSCO-ESSO-BLA-KCAR-PL-TASCO-KKP-TMB-BBL-KBANK-KTB-SCB-BEM-UNIQ และ CPF

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (20 มี.ค.) คาดว่าจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากเงินบาทแข็งค่ามาในเช้านี้ โดยแข็งค่าในรอบเกือบ 6 เดือน และคาดหวังกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า โดยสังเกตุได้จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น และยังได้ทำ Long ในตลาดอนุพันธ์ด้วย นอกจากนี้ จะมีการจัดงาน SET in the City 2017 ในวันที่ 23-26 มี.ค.นี้ รวมถึงในสัปดาห์หน้าก็จะมีการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/60 ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน ราว 0.2-0.3% พร้อมให้แนวรับ 1,555 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 ถัดไปก็เป็น 1,580-1,585 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 มี.ค.) ว่า SET มีสัญญาณฟื้นตัวรูปแบบ Relief rally เป้าหมายที่ 1,580-1,595 จุด หลังคาดว่า Fed จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่การซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติปลายสัปดาห์ก่อนอาจเป็นเพียงผลของการ Rebalance portfolio ตาม FTSE อย่างไรก็ตามด้วย 1) SET มี valuation สูงด้วย PE 15 เท่า และ 2) แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นส่งผลให้ earnings yield gap สำหรับการลงทุนหุ้นไม่น่าสนใจมากนัก ทำให้มองว่าการปรับสูงขึ้นของ SET รอบนี้เป็นเพียงจังหวะในการ “เก็งกำไร” เท่านั้น แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่ออัตราการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่

และแนะนำ “ซื้อ” 1) ธนาคารขนาดใหญ่ อย่าง KBANK TMB และ KTB ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” KKP เพื่อรับปันผล 8.4% ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า และ 2) “ซื้อ” SUSCO (ปรับ TP ขึ้นเป็น 5.70 บาท, marketing margin สูง) และ ESSO (ค่าการกลั่นสูง, marketing margin สูง, และ PE ต่ำสุดในกลุ่มโรงกลั่น)  มองเป็น catch-up plays ตามกลุ่มพลังงานตัวอื่น

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 มี.ค.) มีมุมมองเป็นบวก แนะนำกลยุทธ์ “let profits run” และ “buy on a pullback” ในระยะสั้นปัจจัยภายนอกและภายในยังไม่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะ “Sell-off” ได้ดังนั้นความกังวลเรื่อง fund outflow จะลดน้อยลง เราคาดว่าฟันด์โฟลว์จะไหลกลับเข้า Emerging markets และตลาดจะสามารถขึ้นไปทดสอบที่ 1,580-1,600 จุด ได้ก่อนการเลือกตั้งฝรั่งเศสที่จะเกิดขึ้นในปลายเดือนเมษายน ยังเชื่อว่าหุ้นที่มีแนวโน้มธุรกิจเติบโต และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ชนะตลาดได้ เรายังคงกลยุทธ์ Selective Buy

และยังแนะนำให้สะสมหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีในไตรมาส 1 และหุ้นที่มีลักษณะเฉพาะ อาทิ 1) กลุ่มที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีในไตรมาส 1 (HANA, TACC, KKP, BIG, BR, TASCO), 2) กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ (HANA, TU), 3) กลุ่มปิโตรฯจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน (PTTGC),  4) กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว (BLA, BEM), และ 5) หุ้นที่มีปัจจัยบวกจากกระแส IPO กลุ่ม operating lease (KCAR, PL)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : CPF (ซื้อ/เป้า 42.00 บาท) ผู้ส่งออกไก่อันดับ 1 ของบราซิล โดนข้อหาติดสินบนเรื่องคุณภาพสินค้า, BEM (ซื้อ/เป้า Under Review) คาดสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะสรุปได้เร็วๆ นี้ ส่งผลบวกเชิง sentiment

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 มี.ค.) ว่า ภาวะการซื้อขายสัปดาห์นี้คาดดัชนี SET ยังอยู่ในแนวโน้มฟื้นตัว หลังจากคลายความกังวลต่อประเด็นเฟดอาจจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย และทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ที่ระดับ 34.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ กลยุทธการลงทุน คาดดัชนี SET มีแนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,570 – 1,580 จุด แนะนำซื้อ BBL, KBANK, KTB, SCB (+ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น) และเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น BEM, UNIQ

Back to top button