SET ผันผวน เลือกสอย 18 หุ้นเด่น มีปัจจัยหนุน
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้กลับมาเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด ขณะที่นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูปัจจัยจากสหรัฐฯ การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสแรกของปีเติบโตดีเป็นหลัก หรือเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.61 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจล่าช้าออกไป หลังจากที่เขาประสบปัญหาในการรวบรวมเสียงสนับสนุนของสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสในการยกเลิกโครงการ “โอบามา แคร์”
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้กลับมาเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด ขณะที่นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูปัจจัยจากสหรัฐฯ การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสแรกของปีเติบโตดีเป็นหลัก หรือเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หุ้นเด่นเลือก AAV-BA-SUSCO-WORK-PTTGC-TPCH-HANA-TACC-KKP-BIG-BR-TASCO-JMT-CPF-GFPT-TFG-TISCO และ KKP
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (23 มี.ค.) ว่า วานนี้ตลาดหุ้นไทยชะลอตัวตามภูมิภาค เนื่องจากรอการพิจารณาสภาคองเกรสต่อประเด็น กม. อเมริกันแคร์ ขณะที่การส่งออกไทย ก.พ. -2.76 % แต่หากไม่คิดรวมการส่งออกทองคำและอากาศยานที่เพิ่มขึ้นผิดปกติในช่วง ก.พ. ปีก่อน ยอดส่งออก ก.พ. 60 ยังขยายตัว 8.5% สะท้อนมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของภาคส่งออกไทยและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า กลยุทธ์การลงทุน คาดดัชนี SET ยังแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,580 จุด แนะนำซื้อ CPF, GFPT, TFG ( +บราซิลถูกระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์จากประเทศคู่ค้า ) / AAV, BA (+ ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 เดือนแรกยัง +1.58 %)
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (23 มี.ค.) ว่า SET ยังสามารถยืนได้เหนือแนวรับ 1,558 จุด ทำให้จังหวะ relief rally ยังไม่เสียหาย ประกอบกับได้รับแรงหนุนจาก 1) ปัญหาส่งออกเนื้อสัตว์ในบราซิล เป็นโอกาสธุรกิจส่งออกเนื้อไก่ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และราคาไก่ในประเทศทรงตัวในระดับสูง 2) Window dressing ปิดงบไตรมาส 1/17 ในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตามยังมอง upside ของ SET จะจำกัดที่ 1,580 – 1,595 จุดเท่านั้น และคง Trailing stop ที่ 1,558 จุด
แนะนำ “ซื้อ” CPF (พื้นฐาน 36.00 บาท) และ “เก็งกำไร” GFPT (พื้นฐาน 17.00 บาท ขณะที่Trade Code แนะนำ “ซื้อ” วันนี้เป้าหมายระยะสั้นที่ 18.60/19.30 บาท) มี sentiment บวกจากโอกาสส่งออกเนื้อไก่เพิ่มขึ้น หลังบราซิลมีปัญหาในการส่งออกเนื้อไม่ได้คุณภาพไปในหลายประเทศ
รวมไปถึง “ซื้อ” หุ้นปันผลสูงอย่าง KKP (8.6% ปีนี้ และ 5.7% ใน 1 เดือนข้างหน้า) รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/17 เติบโตดี อย่าง AAV (นักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปี) SUSCO (ค่าการตลาดสูง เร่งขยายสาขา) WORK (ปรับขึ้นค่าโฆษณา) PTTGC (Spread ปิโตรฯ สูง โดยเฉพาะ LDPE LLDPE) TPCH (กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (23 มี.ค.) มีมุมมองเป็นกลางคาด SET จะกลับมาเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัดเช่นเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยนักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการประชุมของผู้แทนราษฎรสหรัฐในคืนวันนี้ว่าจะลงมติต่อร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์” แทนที่กฏหมาย “โอบามาแคร์” หรือไม่ และยังรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันนี้ว่าจะส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไปอย่างไร
ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี (Bond yield) ที่ลดลงและค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่องยังช่วยลดความกังวลต่อประเด็นการไหลออกของ Fund Flow ทำให้หุ้น Big Cap น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ เรายังเน้นกลยุทธ์ Selective Buy เลือกหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือ
1) หุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบไตรมาส 1/17 ออกมาเติบโตโดดเด่น HANA, TACC, KKP, BIG, BR, TASCO 2)หุ้นที่จ่ายปันผลดีและให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงอีกทั้งยังได้ผลบวกจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น อาทิ TISCO และ KKP 3)กลุ่มสินค้าเกษตร CPF GFPT และ TFG รับผลบวกสหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น ชิลี และ เม็กซิโก ประกาศระงับการนำเข้าเนื่อสัตว์จากบราซิลเป็นการชั่วคราว หลังมีข่าวลักลอบส่งออกสินค้าหมดอายุ
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : JMT (เก็งกำไร/เป้าสูงสุด Consensus : 30.00 บาท) รับผลบวกลงนามสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) มูลหนี้ 6.5 พันล้านบาท รองรับการเติบโตของรายได้ในระยะยาว