สอย 19 หุ้นเทรนด์ดี SET ขึ้นตามตลาดตปท.

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.40 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.49 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงราคาบ้านที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีโอกาสปรับขึ้นต่อตามตลาดต่างประเทศ หลังปัจจัยจากสหรัฐฯออกมาดี ขณะที่การขึ้น XD ของ PTT จะส่งผลต่อดัชนีประมาณ 2 – 3 จุด ปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามการประชุม กนง. ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ย การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาดีเป็นหลัก หรือเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว หุ้นเด่นเลือก HANA-TACC-KKP-BIG-BR-TASCO-TISCO-CPF-GFPT-TFG-KKP-TTA-PSL-KCAR-PL-CK-BEM-MTLS และ SAWAD

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (29 มี.ค.) ว่า Dow Jones ปรับสูงแกร่ง +0.73% เมื่อคืนนี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. ปรับสูงขึ้นที่ 125.6 สูงสุดตั้งแต่ ธ.ค. 2000 และดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้, และดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศ +5.9% ในเดือน ม.ค. สูงสุดในรอบ 31 เดือน เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นโลก และ SET ทดสอบเป้าหมาย relief rally บริเวณ 1,580 – 1,595 จุด สำหรับ PTT ขึ้น XD ปันผล 10 บาท/หุ้น วันนี้ส่งผลกระทบ SET ประมาณ 2.9 – 3.0 จุด ขณะที่การประชุม กนง.คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.50% เหมือนเดิม และคาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปจนถึงไตรมาส 4/16

แนะนำ “ซื้อ” SAWAD (พื้นฐาน 56.00 บาท PE ปีนี้ 17 เท่า)  และ MTLS (พื้นฐาน 36.00 บาท PE ปีนี้ 27 เท่า) จาก 1) Growth plays ด้วยกำไรเติบโต 30-60% ในปีนี้ จากการเติบโตสินเชื่อ และขยายสาขาเชิงรุก 2) ดอกเบี้ยในประเทศขึ้นช้า ส่งผล NIM อยู่ในระดับสูง 3) สามารถควบคุม NPL ได้ดี จากการปล่อยสินเชื่อวงเงินต่ำกว่าหลักประกัน

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (29 มี.ค.) คาด SET ยังมีโอกาสขึ้นต่อ โดยมี Sentiment เชิงบวกจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะดาวโจนส์ที่ปรับขึ้นแรงกว่า 150 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ หุ้นกลุ่มพลังงานได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวขานรับข่าวกลุ่มติดอาวุธปิดล้อมแหล่งผลิตน้ำมันดิบในลิเบียคาดว่าจะช่วยลดผลลบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ของ PTT ในวันนี้ (PTT XD 10 บาทต่อหุ้นมีผลให้ดัชนีลดลงประมาณ 2.9 จุด) นอกจากนี้ยังคาดหวังเชิงบวกต่อการไหลเข้าของ Fund Flow ต่างชาติ และการทำ Window dressing ในช่วงปิดไตรมาสของนักลงทุนสถาบันรวมถึงการเข้าเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/17 จะยังหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้

ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/17 ออกมาดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือ 1) หุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบไตรมาส 1/17 ออกมาเติบโตโดดเด่น HANA, TACC, KKP, BIG, BR, TASCO 2)หุ้นที่จ่ายปันผลดีและให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อาทิ TISCO และ KKP 3)กลุ่มสินค้าเกษตร CPF GFPT และ TFG 4) กลุ่มที่เป็นเป้าในการทำ Window dressing อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว และ ค้าปลีกซึ่งเป็นกลุ่มที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นไม่มากหากเทียบกับราคาปิดในปีที่ผ่านมา 5) กลุ่มเดินเรือ TTA PSL รับผลบวกดัชนีค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ 6) หุ้นที่มีปัจจัยบวกจากกระแส IPO กลุ่ม operating lease (KCAR, PL)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : CK (ซื้อ/เป้า 33.00 บาท), BEM (เก็งกำไร /เป้าอยู่ระหว่างปรับประมาณการณ์) ครม.อนุมัติให้บริษัทลูก BEM เป็นผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเป็นบวกต่อ BEM ขณะที่ CK ได้ผลบวกจากแนวโน้มส่วนแบ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น และมีโอกาสได้งานวางระบบเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20,000 ล้านบาท, SAWAD (ซื้อ/เป้า52.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/17 เติบโตโดดเด่นจากต้นทุนเงินกู้ที่ยังอยู่ในระดับต่ำและสินเชื่อยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากดีมานด์ในตลาดรวมถึงการขยายสาขา

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (29 มี.ค.) ว่า ปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามการประชุม กนง. Consensus คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.5% กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET ยังอยุ่ในแนวโน้ม Sideway Up โดยมีแนวรับ 1,565 – 1,570 จุด แนวต้าน 1,585 – 1,590 จุด แนะนำเก็งกำไร BEM (Consensus 7.98 บาท) ได้รับปัจจัยบวก ครม. อนุมัติงานเดินรถไฟสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย