รีบช้อน 10 หุ้นเด่น เน้นงบ Q1/58 โตสวยSET วอลุ่มเบาบาง ระวังแรงขายก่อนหยุดยาว
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,535-1,550 จุด มูลค่าการซื้อขายจะเบาบางมาก เนื่องจากเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และเป็นช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นเก็บไว้ มองเป้าหมายปรับขึ้นที่ 1,600-1,620 จุด ในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.28 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 32.523 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากได้แรงหุนจากการคาดการณ์ที่ว่าภาวะเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่นจะฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,535-1,550 จุด มูลค่าการซื้อขายจะเบาบางมาก เนื่องจากเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และเป็นช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นเก็บไว้ มองเป้าหมายปรับขึ้นที่ 1,600-1,620 จุด ในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า หุ้นเด่นเลือก PTTEP-TEAM-PLANB-RS-BCP-BJCHI-TTCL-KBANK-THCOM และ TOP
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 เม.ย.) มุมมองต่อตลาดคงมุมมองการลงทุนเป็นกลางวันที่ 15 คาดประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,535-1,550 จุด มูลค่าการซื้อขายจะเบาบางมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และเป็นช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า อาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาดของวันนี้เพื่อปิดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาว
อย่างไรก็ตามกระแสเงินทุนต่างชาติยังมีความน่าสนใจ แม้ว่าจะซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเบาบางเพียง 287 ล้านบาทวานนี้ แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures อย่างหนาแน่น 3,673 สัญญา รวม 7 วันทำการ Long สุทธิไปทั้งสิ้น 38,794 สัญญา สะท้อนมุมมองที่น่าสนใจต่อการลงทุนในหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทยช่วงสั้นนี้ อาจเป็นเพราะภาพรวมการประชุมเฟดในช่วงไตรมาส 2/58 โอกาสที่จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นไปอย่างจำกัด
ขณะที่สภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินโลก กลายเป็นจุดที่ทำให้เงินทุนต่างชาติกลับมาเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 ของบริษัทจดทะเบียนตลาดหุ้นไทย อาจประเมินว่า Downside risk ของหุ้นหลักในช่วงสั้นนี้ เป็นไปอย่างจำกัด และจุดชี้ทิศทางที่ชัดเจนคือ ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศวันที่ 20 เม.ย.เป็นต้นไป
สำหรับปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้าให้น้ำหนักกับการรายงาน Beige Book ของเฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในไตรมาส 2/58 และความเห็นของเฟดในการประชุมปลายเดือนเม.ย. ขณะที่การหารือระหว่างกรีซ และ เจ้าหนี้อียู เชื่อว่าท้ายที่สุดจะได้ข้อสรุป เพื่อให้ความช่วยเหลือกับกรีซต่อไป
ดังนั้นการย่อตัวของ SET INDEX ในช่วง 1-2 วันนี้ เป็นเพียงการปรับฐานย่อยเพื่อขึ้นต่อ เพื่อทดสอบด่านสำคัญ 1,555-1,560 จุด ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์
กลยุทธ์การลงทุน ดังนั้นแนะนำนักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย โดยเฉพาะหุ้นที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 เติบโตเด่น หรือ หุ้นที่ยังมีประเด็นเชิงบวกต่อการประชุมผู้ถือหุ้น เป็นทางเลือกของการเก็งกำไรในระลอกใหม่
Accumulative Buy: BCP-BJCHI
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 เม.ย.) แนะนำให้ทำตามแนวทางปฏิกิริยาแห่งสงกรานต์ ทั้งนี้ภายหลังที่ตลาดปรับขึ้นต่อเนื่องหกวันทำการ ในสองวันที่ผ่านมา ดัชนี SET ทรงตัวแทบไม่เคลื่อนไหว คาดหวังที่จะได้เห็นแนวโน้มตลาดที่ชัดเจนขึ้นในวันนี้ นัยปฏิกิริยาแห่งสงกรานต์นั้น
อิงสถิติในอดีตที่มีว่า หากวันนี้วันทำการสุดท้ายก่อนสงกรานต์ ดัชนี SET ปรับขึ้น อาจคาดหวังแรงผลักราคาทางขึ้นหลังเปิดตลาดอีกครั้งในวันที่ 16 เม.ย.เช่นนี้ แนะนำให้ยืนอยู่ฝั่งซื้อเป็นสำคัญ แต่หากวันนี้ดัชนี SET ปรับลดลง อาจตามมาด้วยแรงกดราคาให้ลดลง เช่นนี้ แนะนำขายระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยงการถือครองหุ้น หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน อ่อนตัวสะสม RS /เก็งกำไร PLANB
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 เม.ย.) คาด SET วันนี้ เคลื่อนไหว Sideways ย่ำฐานในกรอบ 1,538-1,550 จุด ก่อนหยุดยาว ซึ่งแนะนำให้ “ซื้อ” หุ้นเก็บ มองเป้าหมายปรับขึ้นที่ 1,600-1,620 จุด ในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า จากม.44 หนุนการลงทุนภาครัฐฯ อีกทั้งสภาพคล่องในประเทศสูงเห็นได้จากดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูง US$6 พันล้านในช่วง 2 เดือนแรก และความชัดเจนต่อร่างรัฐธรรมนูญ ในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า เป็นปัจจัยบวกต่อการเลือกตั้งต้นปี 59
ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” TTCL มีข่าวดีเซ็น MOA โรงไฟฟ้าพม่าขนาด 1,280 MW ราคาหุ้นสามารถปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ถ้ารวมมูลค่าโรงไฟฟ้า รวมไปถึงแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 1/58 ดี อย่าง KBANK สินเชื่อเติบโตดีที่สุดเมื่อเทียบธนาคารอื่นในช่วง 2 เดือนแรก ,THCOM รายได้ดาวเทียมTH6-7 และ iPSTAR ที่เพิ่มขึ้น,TOP คาดกำไร 4.7 พันล้านบาท ในไตรมาส 1/58 พลิกจากขาดทุนในไตรมาส 4/57
บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (10 เม.ย.) ว่า วันนี้ปริมาณการขายสุทธิของนักลงทุนรายย่อยน่าจะเบาบางลง และ SET ยังน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบอีกวัน และยังไม่น่าจะกลับไปยืนเหนือ 1,550 จุดเนื่องจากปัจจัยในประเทศยังไม่มีแรงหนุนด้าน Fundamental
โดยล่าสุด ธปท. ออกมาเปิดเผยว่าไทยมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะชะงักงัน (Stagnation) หากว่าการส่งออกและการลงทุนภาครัฐฯ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญยังไม่เดินหน้าในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งกังวลว่าปัจจัยความอ่อนแอของเศรษฐกิจจะนำไปสู่การปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนแม้ว่าแรงกดดันของราคาหุ้นกลุ่มธนาคารจะเบาบางลงเนื่องจากเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ได้ประเมินถึงความเสี่ยงที่กลุ่มธนาคารจะถูกปรับลดประมาณกำไรปี 2558 ไปบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามประเมินว่าการเติบโตในระยะถัดไปของสินเชื่อยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำจากความกังวลต่อระดับหนี้เสียหลังจากสัดส่วนหนี้ครัวเรือนทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ผลประกอบการของกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆที่กำไรจากการดำเนินธุรกิจปกติ (ไม่รวมรายการพิเศษ) จะได้รับผลกระทบจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งจะทำให้เกิดการปรับคาดการณ์กำไรปีนี้ลงภายในเดือน พ.ค. ทำให้ SET อาจจะดูแพงไปเมื่อเทียบกับกำไรในอนาคตที่ต่ำลง
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะสั้นที่ชอบความเสี่ยงสามารถซื้อเก็งกำไรหุ้นที่สนใจได้ โดยให้ดู SET ต้องสามารถยืนเหนือ 1,545 ได้ หากไม่สามารถยืนได้แนะนำให้ขายลดพอร์ต สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ไม่กังวลต่อปัจจัยเสี่ยงระยะสั้นยังคงคำแนะนำเดิมโดยให้ถือหุ้นต่อ แล้วค่อยทยอยขายที่ 1,560 จุดซึ่งเป็นแนวต้าน Top Daily Pick : THCOM
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (10 เม.ย.) กลยุทธ์การลงทุนเชื่อว่าดัชนียังย่ำอยู่กับที่ ตราบที่ยังขาดปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน กลยุทธ์ให้เลือกหุ้นที่คาดจะให้ผลตอบแทนชนะตลาดในช่วงหลังสงกรานต์เช่น VNG ([email protected]), ADVANC (FV@B285) วันนี้เลือก Top picks VNG ([email protected]) และ RCL ([email protected]) ซึ่งดัชนี Howe Robinson ยังบวกต่อ 5%wow เป็นสัปดาห์ที่ 14
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (10 เม.ย.) มุมมองทางเทคนิค ดัชนีตลาดยังอยู่ในการเคลื่อนไหวแกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นและลงในกรอบแนวรับและแนวต้าน อย่างไรก็ตามสัญญาณทางเทคนิคพบว่า SET ยังทรงตัวบนเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 วันและ 25 วันตามสัญญาณ a bullish divergence ของ MACD ซึ่งล่าสุดวานนี้ (9 เม.ย.) MACD แสดงค่าเป็นบวกครั้งแรกที่ +0.39 ทำให้ภาพหลักยังเป็นทิศทางขาขึ้นเช่นเดิมแนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1540-1555
หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่กรอบแนวรับ-แนวต้าน หุ้นที่น่าสนใจ PTTEP-TEAM